บทนำ
ยานอวกาศโคจรของ NASA
เกิดขึ้น ด้วยความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยี และวิศวกรรมของ USA
ยานอวกาศได้ดังขึ้นและมุ่งหวังสู่ดวงอาทิตย์ที่ความเร็ว 17,000 ไมล์/ชั่วโมง
ตามแผนที่วางไว้ ตอนเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ปี 1999
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Cal Tech’ s Jet Propulsion Lab (JPL)
และจุดอื่นรอบโลก รอสัญญาณของความสำเร็จที่เข้าไปในวงโคจรได้ด้วยดี
ทันใดนั้นสัญญาณจากแผงส่งสัญญาณได้หรี่ลงและดับในที่สุด
จากนั้นไม่ได้ยินเสียงจากยานอวกาศอีกเลย
การสิ้นสติและความหวาดกลัว
ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องทำงานต่อเนื่องเหมือนเข็มหมุนรอบหน้าปัดนาฬิกา
เพื่อค้นหาสิ่งผิดพลาด และพยายามติดต่อกับยานอวกาศ
หลังจากที่เขาทดสอบและวิเคราะห์อยู่หลายวัน
พวกเขาไม่มั่นใจที่จะสรุปว่ายานอวกาศถึงจุดทำลายที่ระดับความสูงที่น้อยกว่า
60 กิโลเมตร แทนที่จะเกิดบนระดับ 150 กิโลเมตร
ตามที่วางแผนไว้นี้เป็นจุดที่ใกล้เคียงมากที่ยานอวกาศได้ระเบิดเป็นเถ้าถ่าน
เนื่องจากแรงเสียดทานกับบรรยากาศ
ผู้จัดการของ JPL และผู้บริหารระดับสูงของ NASA
ไปที่จุดเตือนภัยและได้สอบสวน ทราบว่าวิศวกรรมผู้เขียน Software
ใช้กำหนดหน้าที่ต่าง ๆ ได้ทำงานแยกกลุ่มกัน
และเห็นได้ชัดว่าไม่บรรลุหน้าที่ที่กำหนดไว้ทั้งหมด
คือกลุ่มหนึ่งคำนวณใช้หน่วยเมตริกซึ่งมีหน่วยเป็นกิโลเมตร และกิโลกรัม
ในขณะที่กลุ่มหนึ่งใช้หน่วยเป็นไมล์และปอนด์ (1 กิโลเมตร = 0.6 ไมล์ และ
1 กิโลกรัม = 2.2 ปอนด์)
ประธานของกรรมการสอบสวนการล้มเหลวกล่าวว่า
ปัจจัยที่เห็นได้ชัดที่ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น คือ
เกิดความสะเพร่าในการใช้ภาษาในองค์กร
คนที่ฉลาดส่วนใหญ่กำลังอยู่ในจักรวาลจริง ๆ
แล้วพวกเขาอยู่ในภาวะตกตะลึงขาดความคิด
ก่อนที่เราจะกล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง และไม่ยอมรับความสามารถเขา
จำไว้เสมอว่าการจัดองค์กรธุรกิจทั่วโลกมีเพียง 2 ถึง 3
เท่านั้นที่ดีเลิศที่ทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ
แต่การสะสมของความโง่จะทำให้เกิดความอ่อนแอและกระจายไปทั่วโลกธุรกิจ
ในระดับปฏิบัติการ
ผู้ที่ทำงานองค์กรที่เป็นงานประจำจะสูญเสียความฉลาดและความสามารถ
ซึ่งจะขัดกับความตั้งใจของคนที่มีไฟแรง
และแม้แต่คนที่ฉลาดก็จะทำลายคนอื่น
และไม่ตั้งใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือเกี่ยวข้อง
ถึงเวลาที่ควรหยุดมองข้ามองค์กรที่ไม่ถูกต้องโดยหาสาเหตุและทำความเข้าใจปัญหา
หนังสือเล่มนี้มีจุดประสงค์ดังนี้
-
กำจัดสิ่งที่เกินความจำเป็นโดยไม่คำนึงถึงคนทำงานในองค์กร
การถูกกีดกันการทำงาน แรงงานฟุ่มเฟือยใช้คนผิดประเภท
ไม่มีใจในการทำงาน
-
สร้างความคิดให้กับพนักงานและการบริหารในองค์กร
-
สร้างผู้บริหารระดับสูงขึ้นมาเป็นการถาวรถ้าเป็นไปได้ซึ่งไม่ง่ายที่จะมาเป็นผู้นำ
และมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบด้านขวัญกำลังใจ
เพื่อพัฒนาความฉลาดขององค์กร
เพื่อสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้
-
เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้เขียนที่ต้องการพูดอย่างเปิดอก
และสนุกกับการพูดคุยจากประสบการณ์ชีวิต 25 ปีที่ผ่านมา
เนื้อหาของหนังสือนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความฉลาดที่มีอยู่ในหัวสมอง
ถ้าดูตัวเองสามารถดูได้จากกระจกเงา เพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติขององค์กร
และความล้มเหลว
ชื่อบริษัทที่มีความฉลาดดีเยี่ยมจะยกขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง
"แต่ในที่นี้จะสนใจเฉพาะการจัดองค์กรที่ฉลาด
และความจริงที่ว่ากลุ่มโง่ขยายกว้างกว่ากลุ่มที่ฉลาด
กลุ่มที่ฉลาดยังคงอยู่ต่อไป"
เมื่อ 100
ปีที่ผ่านมาผลของธุรกิจบ่งชี้ว่าอายุเฉลี่ยของบริษัทที่โชคดีมีอายุประมาณ
40-50 ปี เมื่อธุรกิจเริ่มขับเคลื่อนอยู่ในช่วงการอยู่รอด
ไม่ได้ประกันว่าบริษัทจะไม่เจ๊ง บริษัทที่อยู่รอด 100, 200 และ 300
ปี หรือมากกว่านั้น แสดงว่ามั่น มีอายุยืน
แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะอยู่ได้ตลอดไป
สิ่งที่ถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนบอกว่าการได้คืนมาของต้นทุนหรือได้ทุนคืน
แสดงว่าเราอยู่ใกล้กับเส้นของความอยู่รอดระยะสั้นมากกว่าเส้นความมั่นคงในระยะยาว
ดังนั้นการคืนทุนในระยะสั้นนั้นคือบริษัทที่ฉลาด
ติดตามบทที่
1 ในครั้งต่อไป ขอขอบคุณ
คุณวิฤทธิ์ ดินดำรงกุล และทีมผู้บริหาร
ที่ร่วมเผยความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่าแก่สมาชิก 9engineer
และเพื่อนๆในแวดวงอุตสาหกรรม
|