21/04/2557 10:00 น. |
ทำไมการสตาร์ทมอเตอร์โดยใช้Soft Starterถึงมีกระแสสูงกว่าใช้Resistance Step มอเตอร์ที่ใช้เป็นแบบSlip Ring 350Hp |
21/08/2557 21:18 น. |
|
21/08/2557 21:26 น. |
เมื่อเรานำสูตรสุดท้าย ที่รวบค่าคงที่ไว้ด้วยกันแล้ว จะเห็นได้ว่า ค่าทอร์ค จะสูงสุด เมื่อค่า R2 มีค่าเท่ากับ X2 ซึ่งดูได้จากตารางด้านบน และเมื่อ R2= X2 นั่นก็หมายความว่า มุมO = 45 องศา ผิดถูกอย่างไร เชิญคอมเมนท์ ได้นะครับพอดี ผมหาที่มาของสูตร และข้อมูลที่อ่านเจอไม่ได้ เลย ไม่สามารถเอามาอ้างอิงได้ และขอบคุณอีกครั้งสำหรับการติ ชม |
22/08/2557 08:09 น. |
จากสมการของท่านช่างถ้า diff Tst เทียบกับ R2 แล้วจับเท่ากับศูนย์ จะได้ R2 = X2st ครับ แต่ค่านี้ไม่ใช่ pull out torque นะครับ เพราะค่า pull out torque จะไม่ขึ้นกับค่า R2 เลยครับ (อันนี้ผมขอแก้ไข) สิ่งที่ขึ้นกับ R2 คือ ความเร็วรอบ (slip) ที่เป็นจุดที่เกิด pull out torque ครับ และเท่าที่ผมเช็คดู ทั้งใน Text และ เว็บนอก ไม่มีตรงไหนกล่าวว่าการคำนวณหาความต้านทานภายนอก ที่จะนำมาต่อกับโรเตอร์นั้นควรทำให้ R2 = X2 (มุม 45 องศา) เลย ตรงนี้สอดคลัองกับที่ผมให้ความเห็นไปแล้ว ว่าการจุดมุ่งหมายของการสตาร์ทแบบนี้เป็นการควบคุมจุดที่เกิด pull out torque และ ก็เป็นการควบคุม torque-speed characteristic ไปในตัว |
22/08/2557 08:39 น. |
http://www.electricalmanuals.net/files/MV-HV-EQUIP/MCC/GE/WOUND-ROTOR/GET-6598.pdf ในแมนวลก้อเขียนชัดเจนครับว่าการเลือกค่าความต้านทานตอนสตาร์ท ขึ้นอยู่กับว่าแรงบิดและกระแสสตาร์ทที่เราต้องการ ไม่เกี่ยวกับการทำให้ค่าใกล้เคียงกับแรงยิดสูงสุดนะครับ แต่ขึ้นกับการเลือก torque-speed characteristic ตามที่ผมได้กล่าวไปแล้ว |
22/08/2557 15:56 น. |
|
22/08/2557 15:58 น. |
http://www.uppic.org/share-1F07_53F704E1.html รูปไม่ชัดลองเข้าไปดูตาม Link ข้างบนนะครับ |
22/08/2557 16:28 น. |
R1 = 0.461, R2 = 0.332, X1 = 1.106, X2 = 0.464, Xm = 26.3 Ohm จากสมการ Smax หรือ จุดที่เกิด pull out torque ผมแทนค่า Smax = 1 คือให้เกิด pull out torque ตอนที่สตาร์ท จะได้ค่า R2 = 1.677 ohm หมายความว่า ต้องหาความต้านทานมาต่อเพิ่ม = 1.677-0.332 ซึ่งค่า R2 นี้ไม่เท่ากับ X2 (0.464 ohm) ครับ ผมลองแทนค่า R2 = 1.677 ohm ลงใน สมการ Tstart จะได้แรงบิด = 228.6 N-m ค่าเท่ากับ Tmax ที่คำนวณได้ในโจทย์เลย จะเห็นได้ว่าค่า pull out torque (Tmax) มีค่าคงที่ไม่ขึ้นกับ R2 เลย ผมลองแทนค่า R2 = X2 = 0.464 ohm ลงในสมการ Tstart จะได้แรงบิด = 134.5 N-m ครับ สรุป - R2 = 1.677, X2 = 0.464 Tstart = Tmax = 229 N-m - R2 = X2 = 0.464 Tstart = 134 N-m < Tmax จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าการที่ R2 = X2 หรือที่มุมต่างเฟสระหว่างกระแสและแรงดันบนโรเตอร์ = 45 องศา Tstart ก็ไม่ได้มีค่าสูงสุดตามสมการที่ท่านช่างกล่าวมานะครับ ผิดถูกตรงไหนแนะนำได้เลยครับ อ้างอิง : Electrical Machinery Fundamentals by Stephen J. Chapman ครับ |
22/08/2557 18:09 น. |
ต่ออีกนิดนะครับ ผมลอง diff สมการ Tstart ใน Text เที่ยบกับ R2 แล้วจับ dTstart/dR2 = 0 จะได้ R2 = sqrt[(XTH+X2)^2 + RTH^2] จะได้ผลต่างจากสมการของท่านช่างที่ได้ R2 = X2 นะครับ ซึ่งผมคิดว่าสมการ Tstart ของท่านช่าง เด๋วมาต่อว่าทำไมสมการของท่านช่างยังมีข้อผิดพลาดในการคำนวณหา Tstart และ ทำให้ได้ Tstart,max ที่ R2 = X2 ซึ่งไม่ถูกต้อง |
23/08/2557 19:10 น. |
ต่อให้จบนะครับ สูตรท่านช่างถูกตอนแรก แต่มาผิดที่ท่านให้ E2st มีค่าคงที่ครับ เพราะ E2st จะเปลี่ยนถ้า R2 เปลี่ยนครับ เหตุผลคือจากวงจรสมมูล ถ้า R2 เปลี่ยน I2st ก้อจะเปลียน ทำให้ I1st เปลี่ยน ทำให้แรงดันเหนี่ยวนำที่ส่งผ่านมาที่โรเตอร์ (E2st) เปลี่ยนตาม ดังนั้นสมการ Tst = K2 x R2 / (R2^2 + X2^2) จึงไม่ถูกต้อง และ เมื่อนำมาหาว่าจุดที่เกิด Tst,max ทำให้ได้ค่าที่ทำให้เกิด Tst,max ที่ R2 = X2 ที่ไม่ถูกต้องด้วยครับ |
24/08/2557 18:24 น. |
ต้องขอโทษครับ ที่แสดงความคิดเห็นช้า พอดีมีงานที่ต้องไปต่างจังหวัด พึ่งกลับเข้ากรุงเทพ ยอมรับครับว่า ท่าน E/P เหนี่ยวแน่นในกระทู้จริงๆ หาคนจับยาก ที่จะพยายาม หาข้อสรุปเกี่ยวกับความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อให้ได้ข้อสรุปจริงๆ และก็อีกแน่นอนว่า ตอนนี้ วิชาทางคณิตศาร์ต ที่เกี่ยวกับ Differential Equation ของผม ลืมเกือบหมดแล้ว เพราะไม่ได้ใช้มาเกือบ 20 ปีที่เรียนจบ จำได้แต่ Concept เท่านั้น เลยไม่สามารถ เข้าไปวิเคราะห์ สมการที่ท่าน E/P นำมาอธิบาย ดังนั้นผมจึงมีเพียงแต่ สูตร อ้างอิงที่มา ของสูตรแรก และข้อสรุป ที่ว่า ทอร์คขณะสตาร์ทจะได้ค่ามากที่สุด เมือ R2= Xst โดยผมต้องขออนุญาติ อ้างถึง คือหนังสือ ของ สสท. เขียนโดย ผศ. ศุภชัย สุรินทร์วงศ์ โดย อยู่ในหนังสือหน้า 192 และมีรายละเอียดตามโพสต่อไป |
24/08/2557 18:32 น. |
|
24/08/2557 18:38 น. |
และถ้าอยู่ในสภาวะ หมุนออกตัวไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ ก็ยังอธิบายต่อไปว่า ความสัมพันธ์เดิม ก็ยังอยู่ แต่ค่าจะเป็นไปตามค่าสลิป นั่นคือ ในสภาวะที่มอเตอร์หมุนไปแล้วค่า XL ของโรเตอร์จะเปลี่ยนตามความถี่ของโรเตอร์ ถ้าในสภาวะสลิปนั้น ทำให้ความต้านทานโรเตอร์ เท่ากับ ค่าXL ของโรเตอร์ในสภาวะค่าสลิปนั้น ก็จะได้ แรงบิดสูงสุด ณ. ค่าสลิป นั้นๆ ตามข้อมูลในหนังสือ โพสต่อไป |
24/08/2557 18:42 น. |
|
24/08/2557 18:54 น. |
ส่วนความเห็นในโพสที่ 24 ผมเองคิดแตกต่างครับ ตรงที่ถ้าเรามองมอเตอร์เหมือนหม้อแปลง ความต้านทานของขดลวด Secondary ไม่ส่งผลต่อแรงดัน secondary (ไม่พิจารณา Voltage Regulation) ปัจจัยที่จะมีผล จะเป็นจำนวน รอบที่ใช้พัน ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อค่า XL แต่ก็จะไม่ง่ายที่จะบอกว่าใครถูกใครผิด เพราะมอเตอร์เป็นอะไร ที่มีทั้งทางกลและไฟฟ้าอยู่ด้วยกัน |
24/08/2557 23:18 น. |
จะเห็นเลยว่าถ้ากระแสสเตเตอร์ตอนสตาร์ท (I1,start) เปลี่ยน แรงดันตกคล่อม R1+ jX1 ก้อจะเปลี่ยน ทำให้ E1 เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้แรงดันเหนี่ยวนำทางโรเตอร์เปลี่ยน เนื่องจาก E1 = (aeff) ER โดยที่ aeff คือ effective turn ratio ระหว่าง โรเตอร์กับสเตเตอร์ ดังนั้น ER จึงไม่คงที่แต่เปลี่ยนตาม R2 ครับ |