Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 176,023
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 173,615
3 100,000D_เครื่องมือช่าง 173,015
4 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 172,821
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 170,495
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 169,582
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 168,536
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 167,845
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 160,398
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 158,477
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 158,390
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 157,536
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 67,636
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 62,174
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 50,581
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 43,581
17 Industrial Provision co., ltd 39,256
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 38,399
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 36,322
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 34,652
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 33,486
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 31,886
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 31,248
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 30,989
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 27,615
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 26,544
27 P.D.S. Automation co.,ltd 22,980
28 AVERA CO., LTD. 22,611
29 เลิศบุศย์ 21,710
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 20,417
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 20,278
32 แมชชีนเทค 19,918
33 Electronics Source Co.,Ltd. 19,894
34 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 19,208
35 มากิโน (ประเทศไทย) 19,174
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 18,825
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 18,626
38 SAMWHA THAILAND 18,325
39 วอยก้า จำกัด 17,934
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 17,506
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 17,362
42 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 17,335
43 I-Mechanics Co.,Ltd. 17,270
44 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 17,244
45 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 17,157
46 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 17,109
47 Systems integrator 16,734
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 16,664
49 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 16,484
50 Advanced Technology Equipment 16,467
15/07/2545 01:05 น. , อ่าน 102,207 ครั้ง
Bookmark and Share
วศ.บ.4ปีที่จบจากม.6มา กับ วศ.บต่อเนื่อง3ปี ที่จบจากปว.ส.
facility
15/07/2545
01:05 น.
วศ.บ.4ปีที่จบจากม.6มา กับ วศ.บต่อเนื่อง3ปี ที่จบจากปว.ส. มา ตลาดแรงงานต้องการแบบไหนครับเพราะอะไร
ความคิดเห็นทั้งหมด 663 รายการ | «    6  7  8  9  10  11  12  13  14  15    »
ความคิดเห็นที่ 151
ENG 4
19/12/2546
23:46 น.
eng4 ปี เก่งทุกคนอยู่แล้ว เรียนเยอะกว่าด้วย
ความคิดเห็นที่ 152
ผู้ที่ไม่เคยยอมใคร
20/12/2546
02:21 น.
คุณเรียนเยอะกว่าแล้วคุณต้องเก่งกว่ารึคุณ eng 4 แล้วคุณรู้ได้ไงคุณเรียนเยอะกว่า บิดาคุณเป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการรึ ผมไม่สนหรอกว่าเรียนเยอะกว่าหรือไม่เพราะความรู้จะหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ประสบการณ์มันหายากไอ้น้อง eng 4
ความคิดเห็นที่ 153
วิศวกรไฟฟ้า 4 ปี (อกตัญญู)
22/12/2546
00:10 น.
ผมเป็นวิศวกรคนหนึ่งที่มองเห็นและเข้าใจแล้วว่า Eng.4ปี ไม่ได้เรื่อง เห็นแก่ตัว เก่งแต่ปาก ไอ้เรื่องที่บอกว่าเรียนเยอะกว่า ไม่จริง ขอค้าน ในส่วนเรื่องที่ไอ้พวกบริษัทเฮงซวย ชอบรับแต่เด็ก4ปี ก็ปล่อยมันไป ไอ้พวกนี้เป็นพวกที่ทำให้บ้านเมืองเราถดถอยลงทุกวัน ระวังเถอะเวรกรรมมีจริง ผมเป็นเด็ก4ปี แต่ผมมีความเป็นกลาง มองความเป็นจริงและความถูกต้อง ขอร้องเถอะ ไอ้เรื่องเล่นสีเล่นพวก อย่าเลย บ้านเราจะได้พัฒนาขึ้น ปัญหาการว่างงานจะได้น้อยลง ยังไงก็คนเหมือนกันทั้งนั้น ช่วยกันเถอะพี่น้องชาววิศว ทั้งหลาย
ความคิดเห็นที่ 154
คนของแผ่นดิน
23/12/2546
06:24 น.
เด็ก ม.6 อย่างเก่งที่เรียกว่าเรียนมากว่า ก็เคมี ชีววิทยา.....<br>แต่สำหรับเด็ก ปวช ปวส. ผมเรียน ฟิสิกส์ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร<br>เพราะลองดูจากการเรียน ป.ตรีแล้ว วิชาที่เรียนเเล้วเป็นปัญหากับเราก็เคมี ชีวนี่ล่ะ เพราะเราไม่มีพื้นทางนี้ ส่วน แมท ก็ Diff Equa ก็เรียนเหมือนกันตัดเกรดรวมกัน 4ปี กับ 3 ปี ก็ A ได้เท่ากัน ที่แตกต่างกันจริงและน่าเวทนาคือ ใครเรียนจบ ปวส จะทำปริญาสักใบ ทำไมมันหลายปีจัง ก็ถ้าเอนเข้า เรียน 4 ปี แต่เราเรียน ปวสมา 2ปี <br>มาต่อ ป.ตรี อีก3 ปี รวมเป็น 5 ปี คุณอยากรู้ไหมหน่วยกิตที่เราเรียน<br>จบป.ตรี อย่างเดียว 230 กว่าหน่วย + กับตอนปวส อีก 180 เป็นเท่าไร 410 กว่าหน่วย x กับ 300(ค่าหน่วยกิต) แล้วอย่างนี้เขาเรียกว่าอย่างไร ที่บอกว่าเด็ก ม 6 เรียนเยอะกว่า <br><br>แต่ที่สำคัญจบแล้ว สร้างประโยชน์เพื่อประเทศชาติของคุณได้เท่าไร ทำอะไรให้แผ่นดินบ้าง ตอบแทนสังคมที่คุณอยู่อย่างไร<br>คุณให้อะไรกับตัวคุณได้ แล้วใยจึงให้ประเทศชาติไม่ได้ <br> คิดสิ่งประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ สร้างอะไรก็ได้ จากความรู้ที่คุณมีให้กับสังคม มากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้ใส่ตน <br> หากแต่จะมองว่าวันๆนึง เราจะได้ตังกี่บาท จะเอาเงือนเดือนเท่านี้ๆ เอาเงินไปหาหญิง ไปเที่ยว อยากจะรวย <br> ผมว่า จบแบบไหน ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน
ความคิดเห็นที่ 155
ผู้จัดการนิคมอุตสาหกรรมๆ
25/12/2546
09:27 น.
<br>ผู้ประกอบการ<br>จากการทำวิจัยในบริษัทที่ดำเนินงานด้านวิศวกรรม<br> วศ.บ.ที่มาจากปวส.มีความรู้และความสามารถมากกว่า ไม่หยิ่ง ทะนงตน แม้จะภาษาไม่ดีมากนัก แต่ก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตัวที่น่ารักเข้ามาทดแทน เรียกได้ว่ามีทั้งบู้และบุ๊น <br> ผิดกับวศ.บ.ที่เรียน4ปี(Ent')ที่จะเก่งทฤษฎี แต่ทำจริงไม่ได้เรื่อง คอยเลียแข้งเจ้านายที่เป็นชาวต่างชาติ <br> หลอกตัวเองว่ามีความสามารถแล้วดูถูกผู้อื่น<br> ที่บอกว่าเรียนมากกว่านะ มันมากกว่าตรงใหน<br>
ความคิดเห็นที่ 156
3&4
26/12/2546
04:06 น.
ผมเรียนต่อเนื่อง๓ปี แต่เรียนจบ๔ปี เกรดนิยม๒.๐....อย่างงี้เป็นอย่างไหนครับ แต่ผมก็ไม่ตกงานทำงานได้เงินเดือนเหมือนกัน สูงกว่าคนที่จบสถาบันที่ใครคิดว่าดีกว่า และผมไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใครเก่งแค่ไหน รู้แต่ว่าทุกคนก็ทำงานได้เหมือนกันแต่ต่างกันที่ความถนัด,ความสามารถและโอกาศที่จะได้งานที่ตรงกับตัวเอง ไม่อาจแบ่งการเรียน๓หรือ๔ปีได้ คนดูถูกคนก็คือดูถูกตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 157
bukjo@thailmail.com
28/12/2546
12:11 น.
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่จบวิศวะต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมาได้รับข่าวสารและประสบกับตัวเองด้วยถึงการดูถูกจากสังคมและวศบ.4 ปีว่าพวกเราด้อยกว่าเขา ผมว่าการคิดหรือการตราหน้าอย่างนี้มันไม่ถูกหรอก ยกตัวอย่างจากตัวผมเองจบ ปวส.มาเข้าทำงานโรงงานอุตสาหกรรม 1 ปีแล้วเรียนต่อและทำงานไปด้วยจนจบการศึกษาระหว่างเรียนนำความรู้ไปใช้ในการทำงานจนเกิดความชำนาญ จบวศบ.ไปขอความรู้ หรือให้แก้ปัญหาให้ก็มาก ไม่เห็นจะเหนือกว่าตรงใหนเลย ตลอดเวลาของชีวิตที่ผ่านมาผมทุ่มเทให้กับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีความสามารถในการช่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กฯเกือบทุกชนิด เขียนโปรแกรม สามารถออกแบบไฟฟ้า ได้ เออ..คือ ในใจอยากท้าดวนกับพวกที่ดูถูกคนอื่นจัง...เฮ้อ..รักกันหน่อยน่ะคนไทยด้วยกัน
ความคิดเห็นที่ 158
3.76 ME CU
30/12/2546
02:26 น.
จบแบบไหน สุดท้ายเวลาทำงานก็ต้องเรียนรู้วิธีการทำงานใหม่อยู่ดี มีใครบ้างพอจบแล้วได้เป็น senior engineer หรือ manager บ้าง และจะทำงานได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละบุคคล วุฒิ วศบ. หรือ อสบ. จากสถาบันไหน ได้เกรดเท่าไร ไม่สามารถบอกได้ว่าบุคคลนี้เป็นคนทำงานเก่ง ต่างก็ตรงที่หางานได้ง่ายหรือยากก็เท่านั้น หรือถ้ามีภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติที่ตรงกับที่เรียนมาก็จะช่วยให้เริ่มต้นได้ดีกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น วิศวกรจำเป็นต้องมีศิลปะการทำงานร่วมกับผู้อื่นบ้าง ไม่มีใครเก่งกาจขนาดทำงานคนเดียวได้ ดังนั้นอย่ามาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้เลยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 159
CU
30/12/2546
02:33 น.
คนที่เรียนต่อเนื่อง คุณมั่นใจมากหรือครับว่า คนที่เรียน 4 ปีทุกคนจะอ่อนภาคปฏิบัติกว่าคุณ ส่วนตัวผมยังไม่มั่นใจเลยว่าทฤษฎีผมจะปึกกว่าคุณ แล้วคุณจะมาสรุปเช่นนี้ได้อย่างไร หรือถ้าข้องใจทิ้งเบอร์มาเลยดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 160
แอนดี้...
30/12/2546
04:16 น.
.....ผมว่าน่ะถ้า toyota มันไม่รับก็มาที่ hondaได้เลยเรายินดีถ้ามีความสามารถ""<br><br>ผู้หญิงคนหนึ่ง.... ที่ดูๆแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่น<br>ผู้หญิงคนนี้...ธรรมดา ... แต่ความเป็นคนของเธอ ...<br>ช่างวิเศษนัก ...<br>ผู้หญิงคนนี้ ... ผู้ที่สอนให้ผมรู้จักกับคำว่า<br>“ความรัก”ที่แสนจะอบอุ่น ...<br>ผมไม่รู้ว่าเธอ... คนนั้นเข้ามาในชีวิตผมได้อย่างไร แต่ตอนนี้<br>เธอก็หยิบยื่นความรักให้ผมอย่างเพียงพอแล้ว<br>พวกคุณมาลองทำความรู้จักกับ “เธอ” ดูก็แล้วกัน...<br>เรื่องราวของเธอ เป็นอย่างไรกัน ... พวกคุณลองมาฟังกันดู<br><br>10 กรกฎาคม 2540<br>วันหนึ่งในมหาลัย ผมได้พบกับผู้หญิงคนนึงโดยไม่ได้ตั้งใจ<br>ขณะที่ผมเดินอยู่ในโรงอาหารของมหาลัย เพื่อหาอาหารแดก..<br>ซึ่งคนแย่จังก็เดินขวั่กไขว่เต็มไปหมด<br>เพราะเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี..<br>และด้วยความที่ว่าคนเยอะมาก<br>ทำให้ผมเดินไปชนไหล่เธอเข้าอย่างจัง...<br>ผมหันหน้าขวับ... ไป พร้อมกับพูดคำว่า ขอโทษครับผม....<br>เธอก็หันมามองผมเช่นกัน พร้อมกับบอกผมว่า “ ขอโทษนะคะ<br>ศรไม่ได้ตั้งใจค่ะ”<br>แล้วเธอก็โบกมือ พร้อมกับหันหลังเดินจากไป เธอเป็นคนสวย ผมยาว<br>ผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่ามองเป็นอย่างยิ่ง<br>ความน่ารักของเธอ<br>ต้องตาตรึงใจผมยิ่งนัก... ผมรู้สึกประทับใจเธอยิ่งนัก “<br>เธอชื่อว่าศร “<br>นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้รู้จักเธอ ผมรู้แค่ว่า เธอชื่อว่า “ศร“<br>แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะนิสัยส่วนตัวผม<br>แทบจะไม่สนใจผู้หญิงอยู่แล้ว.... แต่กับคนนี้ ผม<br>^_-...ปิ๊ง...-_^<br>เธอทันที ตั้งแต่แรกเห็น แล้วผมก็คิด “ เอิ๊กส์ๆๆๆ หน้าตางั้น<br>สงสัยมีแฟนแล้วด้วยแน่ๆเลยว่ะ เฮ้อ เหลวไหลว่ะผม “ ...<br>แล้วผมก็หัวเราะเบาๆ กับตัวเอง....<br>แล้วผมก็มองหาของแดกต่อไป......<br><br>24 กรกฎาคม 2540<br>สองสัปดาห์ต่อมาต่อมา ผมถูกอาจารย์<br>ใช้ให้ไปขนหนังสือกองเบ้อเร่อที่ห้องสมุดมหาลัย<br>ผมต้องยกกองหนังสือกองใหญ่ขึ้นไปชั้นสองของห้องสมุด...<br>ผมก็ขนๆๆไป<br>แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของผม ผมเลยทำหนังสือกองใหญ่ที่ผมยกอยู่<br>ล้มโครมลงมา ระเนระนาด เต็มบันไดไปหมด “ นายห่าเอ๊ยยย “<br>ผมโพล่งออกมาด้วยอารมณ์เซ็งสุดตีน พร้อมกับก้มลงเก็บหนังสือ...<br>ตอนผมกำลังก้มงกๆ เพื่อไล่เก็บหนังสืออยู่นั้น<br>ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องสมุดชั้นสองเปิดออก<br>พร้อมกับเสียงคนกำลังเดินลงบันไดมา...<br>ผมเลยเร่งเก็บหนังสือให้เร็วขึ้น<br>เพราะถ้าผมไม่รีบ กองหนังสือมันจะขวางบันได<br>ทำให้คนเดินลงบันไดไม่ได้.<br>ขณะที่ผมกำลังเก็บอยู่นั้น ผมก็เหลือบไป<br>แล้วสิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ.......<br>ผู้หญิงคนนึง กำลังก้มเก็บหนังสือด้วยท่าทางอิริยาบถ<br>คล้ายๆกับที่ผมกำลังทำอยู่....<br>เมื่อผมเหลือบขึ้นไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้น<br>ผมก็ตกใจ.... เธอคือ....<br>ศร....ผู้หญิงที่ผมเดินชนเธอในโรงอาหารวันนั้นนี่หว่า......<br>ผมนั่งมองเธอด้วยอาการงงงวย....<br>ประจวบเหมาะ พอดีเธอหันมาเห็นผมนั่งมองเธอ เธอก็พูดขึ้นมาว่า<br>“รู้แล้วค่า ว่าคุ้นๆหน้าน่ะ แต่อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะคะ<br>มาช่วยกันเก็บหนังสือก่อนนะคะ เดี๋ยวคนเค้าเดินขึ้นลง<br>เค้าจะเดินไม่ได้กัน... รีบๆหน่อยสิคะ เดี๋ยวจะมีคนเดินมานะ ”<br>เสียงหวานๆ น่ารักของเธอสะกดผมซะนิ่งไปเลย เธอเห็นท่าทางผมเอ๋อๆ<br>เธอเลยพูดขึ้นมาอีกว่า “” แน่ะ... เหม่ออะไรคะ<br>เมื่อคืนนอนดึกเหรอ<br>บอกให้ดื่มกาแฟก็ไม่เชื่อ ฮิ ฮิ “” เธอพูด<br>พร้อมกับหัวเราะเสียงเล็กๆ<br>น่ารักเป็นกันเอง มือเธอก็หยิบๆหนังสือไป พอดีผมรู้ตัวว่า<br>ผมกำลังเก็บหนังสืออยู่นี่หว่า ผมก็เก็บต่อ แล้วระหว่างที่เก็บ<br>ผมก็เลยถามเธอว่า ชื่อ ศร เหรอ เธอตอบว่า “”ใช่ค่ะ อ่ะ<br>รู้ได้ไงอ่ะ””<br>ผมก็เลยบอกเธอไปว่า ตอนเดินชนกันในโรงอาหาร เธอพูดบอกผมว่า<br>ศรขอโทษ ไง<br>ผมก็เลยรู้ชื่อเธอได้ แบบไม่ตั้งใจ ผมกับเธอ<br>ก็เลยคุยทำความรู้จักกันพอเป็นพิธี<br>เธอเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นกันเอง ทำให้ผมกับเธอ<br>รู้สึกสนิทสนมกันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก..<br>เมื่อพอจะได้รู้จักกันบ้างแล้วผมก็เลยถามเธอว่า ศรจะไปไหนล่ะ...<br>เธอเลยตอบผมว่า จะไปคาฟ (โรงอาหาร) ไปทานข้าว ผมเลยถามเธอว่า<br>อ่าว...<br>ไม่ไปทานกับเพื่อนล่ะ<br>เธอก็บอกผมว่า เธอเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้ยุ่งกับใคร<br>เธอไม่ค่อยชอบ... โอ่ว... เธอนิสัยคล้ายๆผมเลย<br>ผมก็ไม่ชอบยุ่งกับใคร<br>เธอก็บอกผมอีกว่าเธอเห็นผมท่าทางเก็กๆแปลกๆ แต่ดูตลกดี<br>คือเหมือนแกล้งเก็ก ว่างั้นเหอะ<br>เธอก็เลยรู้สึกว่าผมน่าสนใจน่าทำความรู้จักด้วย<br>เมื่อเธอพูดจบแล้ว<br>เธอก็เลยบอกผมต่อว่า “” งั้นเก็บหนังสือเสร็จแล้ว<br>ไปทานข้าวเป็นเพื่อนกันหน่อยนะคะ “” ผมก็ตบปากรับคำไป<br>เมื่อเก็บหนังสือเสร็จ ผมก็เลยไปนั่งทานข้าวกับเธอ<br>เราก็ได้คุยกันสนุกสนานพอสมควร<br>ทำให้ความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างผมและเธอ..... เพิ่มมากขึ้นไปอีก<br>และอีกอย่างที่ได้รับรู้ ระหว่างที่คุยกับเธอที่โรงอาหาร ก็คือ<br>เธอ....ยังไม่มีแฟน...... ผมอยากจะดีใจกระโดดตัวลอย<br>แต่ผมก็ทำไม่ได้<br>...ศรจะรู้บ้างมั๊ย...<br>ว่าเธอกำลังรินน้ำรดให้ต้นไม้ต้นเขียวสดใสในใจของผม<br>ค่อยๆงอกขึ้นมาช้าๆอย่างสวยงาม......<br>หลังจากนั้นมา ผม กับ ศร ก็เริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ<br>ด้วยความที่ว่า<br>ผมเป็นคนอัธยาศัยดี ส่วนเธอก็เป็นกันเองมากๆ<br>ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ<br>จนนักศึกษาคนอื่นๆ เริ่มมอง และล้อเลียนว่า ผม กับศร<br>เป็นแฟนกัน...<br>แต่ทั้งผมและศร ก็ไม่ได้สนใจอะไร.... แต่จริงๆ<br>ผมก็แอบดีใจนะ....<br>.......ต้นรักในใจของผม กำลังจะกลายเป็นต้นกล้าเขียวชอุ่ม<br>แตกกิ่งก้านสาขาแข็งแรงออกมาเรื่อยๆ .........<br><br>1 ปี ผ่านไป........<br>........................................<br>10 สิงหาคม 2541<br>หนึ่งปีผ่านไป ผม กับ ศร ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันมาก<br>แต่ความรู้สึกผมก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรอกนะ.....<br>ผมยังรักผู้หญิงคนนี้อยู่ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น.... ใช่<br>ผมรักศร<br>แล้ว 1 ปีกว่าๆมาแล้ว ที่ผมได้รู้จักเธอ.... มันถึงเวลาแล้วล่ะ<br>ที่ผมจะบอกรักเธอ..... แต่ผมก็ไม่รู้ ว่าผมจะบอกยังไงดี<br>ผมก็เลยวางแผนจะชวน ศร มางานวันเกิดผม<br>ที่ผมจัดให้ตัวผมเองคนเดียวมาตลอด<br>วันนี้ วันที่ 10 สค. วันเกิดผม 25 สค. ....อีก 15 วัน ใช่.....<br>ผมจะชวนเธอมา แล้วผมก็จะ.....บอก...... “”ฮะๆๆๆ””...<br>ผมคิดเองหัวเราะเองเหมือนคนบ้า แต่ผมก็ฉุกคิดอีกว่า เอ่อ ....<br>ถ้าเธอไม่รักผมล่ะ ผมก็คง............<br>”” เฮ้ยยย ช่างแย่จังเหอะ”” ผมตะโกนเสียงดังเพื่อตัดบทตัวเอง<br>พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตา ทำการบ้านต่อไป....<br>ส่วน ศร หนึ่งปีหลังผ่านมานี่ เธอป่วยบ่อยมาก<br>เข้าโรงพยาบาลตกเดือนละ 1<br>ครั้ง...ร่างกายทรุดโทรมจนดูไม่สวยเหมือนเมื่อก่อน...<br>เธอไม่สบายเป็นว่าเล่น... พอผมถามเธอว่า เธอเป็นไร<br>เธอก็จะตอบผมเหมือนกันทุกครั้งว่า<br>“”เป็นแค่โรคประจำตัวธรรมดาน่ะ<br>ช่วงนี้วูบบ่อยเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก เป็นมาตั้งนานแล้ว<br>แต่ผมก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ เพราะเธอดูโทรมลงไปมาก.....<br>แต่ผมก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะเธอย้ำผมบ่อยมากๆ<br>ว่าเธอเป็นแบบนี้ประจำ<br>เป็นอาการปกติของเธอ....<br><br>20 สิงหาคม 2541<br>วันที่ 20 แล้ว.... อีก 5 วัน เท่านั้น ก็จะถึงวันเกิดผม....<br>ผมเลยตัดสินใจบอกชวน ศร ไปว่า “” อีก 5 วัน วันเกิดเรานะ<br>ศรจำได้ป่ะ....<br>เธอตอบผมมาว่า...........<br>””เอ้อ ใช่<br><br>ปีที่แล้วเราไม่ได้จัดงานวันเกิดให้นี่นาเพราะติดงานวุ่นวายกันทั้งคู่..<br>งั้น... ปีนี้ เราไปจัดงานวันเกิดกันสองคนเนอะ ฮิฮิ<br>เราเพื่อนกันแค่สองคน.. วันที่ 25 นี้ เธอขอพรจาก ศร ได้ 1<br>ข้อนะ...<br>ในฐานะที่เป็นเพื่อนที่ดีกับศร มาตลอดศรจะให้พรเธอ 1 ข้อออออ<br>ศรสัญญา<br>ว่าศรจะมางานวันเกิดเธอให้ได้นะ.... “”<br>....พูดจบเธอก็หัวเราะคิกคักเหมือนเดิม.... ผมได้แต่มอง<br>แล้วก็แอบชื่นชมเธอในใจว่า 1 ปี ผ่านมาแล้ว<br>ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน... เธอยังสดใสเหมือนเดิม<br>แม้ภายนอกเธอจะดูซูบโทรมไปบ้าง เธอก็ยังสวยน่ารักเหมือนเดิม<br>สำหรับผม.... เฮ้อ ... แต่นายคำว่าเพื่อน นี่สิ ผมได้ยินทีไร<br>ใจหายทุกที...... แต่ผมก็ไม่สนใจ<br>ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง วันที่ 25 นี้ ผมจะบอกรักเธอให้ได้<br>แล้วผมจะรอดู<br>ว่านางฟ้าของผมคนนี้ จะให้พรได้ตามที่ผมหวังไว้รึเปล่า.... <br>“””ศรรักเ ธ อ น ะ“” คำนี้แหละ ข้อนี้แหละ<br>คือพรที่ผมอยากได้จากนางฟ้าของผม........แต่ก็ไม่รู้<br>ว่าผมจะสมหวังมั๊ย...<br><br>21 สิงหาคม 2541<br>ช่วงสอบ.....<br><br>ศรป่วย กลับ กทม. เข้าโรงพยาบาลแต่เช้า<br>ผมก็คิดว่าเธอจะกลับมาช่วงบ่ายๆเย็นๆ เหมือนอย่างที่เคย.....<br>แต่มันไม่ใช่..... วันนี้ เธอหายไป..... เธอเป็นอะไรรึเปล่า...<br>ผมก็ได้แต่คิด... และหวังว่า เธอคงไม่เป็นอะไร ผมก็ได้แต่ รอ รอ<br>รอ<br>และ.... รอ<br><br>22 สิงหาคม 2541<br>เงียบ..... ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย<br>ผมเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ...... ศรหายไปไหน<br>โทรไปที่บ้าน<br>ก็ไม่มีคนรับ.....<br><br>23 สิงหาคม 2541<br>..............<br>24 สิงหาคม 2541<br>................!!!!!!?? โทรไปบ้านศร คนใช้รับสาย บอกผมว่า<br>””คุณหนูศร ป่วยหนัก นอนอยู่โรงพยาบาลค่ะ คุณพ่อคุณแม่ของคุณหนู<br>ก็อยู่ที่นั่นกันหมด”” ไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้<br>สอบเสร็จผมจะบึ่งกลับ<br>กทม.... ทันที<br><br>25 สิงหาคม 2541<br>สอบเสร็จแล้ว.. เหนื่อยมากๆ เมื่อคืนไม่ได้นอน<br>เพราะนอนไม่หลับ...<br>วันนี้วันเกิดผมแล้ว ศรยังไม่โผล่มาสอบ....ไม่ดีแล้วล่ะ....<br>สอบเสร็จตอนบ่ายผมรีบอาบน้ำแต่งตัว พก ซาวด์อเบาวท์คู่ชีพ<br>พร้อมเทปเพลง<br>GUN N’ ROSES คู่ชีพ ขึ้นรถตะลุยมา กทม. ตรงไปยังโรงพยาบาลที่<br>ศร<br>รักษาตัวอยู่ทันที<br>...ผมรีบถามพยาบาลทันที ว่าศร พักอยู่ห้องไหน.... เมื่อรู้แล้ว<br>ก็ก็รีบวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ตรงไปที่ห้องที่ศร พักอยู่ทันที.....<br>ห้อง<br>418...... ผมรีบเปิดประตูเข้าไปทันที ด้วยความเป็นห่วง....<br>.....ภาพที่ผมเห็น ทำให้ผมแทบช๊อค....... ศรนอนสวมชุดคนไข้สีขาว<br>มีท่ออ๊อกซิเจนต่อ เข้ามาที่ปาก สายระโยงระยางเต็มตัวไปหมด...<br>ชีพจรเต้นอ่อนรวยระริน...... พ่อแม่ของศรนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ<br>ผมรีบสวัสดีพ่อแม่ศร แล้วถามถึงอาการของศร...<br>แม่ของศรน้ำตาไหลพราก ตาแดงก่ำ สะอื้นให้แทบขาดใจ<br>เล่าเรื่องของศร<br>ให้ผมฟัง ส่วนพ่อศร นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จา<br>น้ำตาหยดเลอะเสื้อสูทเต็มไปหมด... เหมือนจะทำใจแล้ว อยู่ข้างๆ<br>พอผมได้ฟังเรื่องจากแม่ของศร ผมจึงได้รู้ว่า.....<br>.....ศรเป็นมะเร็งหลายที่ ภายในร่างกาย....<br>เมื่อวานก็เพิ่งผ่าตัดมา<br>โอกาสรอด..... น้อยเต็มที..... ............ผมแทบจะบ้าตาย<br>ช๊อคตายตรงนั้น...... นางฟ้า..... ของผม.... นี่มัน....<br>อะไรกันวะ....!!!!?<br>พอดีที่ศรลืมตาขึ้นมา ศรจึงยกมือผอมซูบซีด ของเธอ<br>เคาะตรงขอบเตียงเพื่อเรียกพ่อแม่ของเธอมา<br>แล้วเธอก็กระซิบพูดอะไรบางอย่าง<br>ผ่านท่อออกซิเจนมาอย่างอ่อนระโหย<br>ให้พ่อแม่เธอฟัง........ แล้วพ่อแม่เธอ....<br>ก็พยักหน้าเรียกผมเข้ามาหา<br>บอกผมว่า ลูกศรเค้าอยากจะพูดกับเธอ.... ........ผมไม่รอช้า<br>รีบเดินไปที่เตียงทันที ....<br>ผมหน้าเสีย ใจเสียเต็มทน เหมือนใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ...<br>แต่ศรจับมือผมไว้<br>แล้วศรก็ยิ้ม... ผมก็จับมือศรไว้แน่นเช่นกัน....<br>เธอกระซิบผ่านหลอดออกซิเจนที่ครอบปากเธออยู่<br>ได้ยินเป็นเสียงเบาๆ<br>ได้ใจความว่า...<br>”””” วันนี้ วันเกิดเธอนะ เธอจะทำหน้าตาแบบนี้ ไม่ได้นะ วันเกิด<br>เป็นวันที่เจ้าของวันเกิด ต้องมีรอยยิ้มให้มากๆสิ<br>ศรไม่เป็นไรหรอก...<br>ไม่ต้องห่วง.... แฮปปี้เบิร์ธ...เดย์นะ ส่วนพรที่เธอจะขอ<br>เธอก็ขอมาได้เลย.... จับมือศรไว้แน่นๆ แล้วหลับตาอฐิษฐาน<br>....ด้วยกัน<br>พร้อมกับศรนะ.... เอาล่ะ หลับตาอฐิษฐานสิคะ<br>พรจะได้สมหวังไง..””””<br>ผมยืนนิ่งมองไปที่ศร จับมือศรไว้แน่น ศรก็ยิ้มมองหน้าผม<br>แล้วพยักหน้าบอกให้ผมหลับตา อฐิษฐานพร้อมกันกับศร<br>ผมก็หลับตาลง.......<br>น้ำตา... เริ่มรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของผม......<br>แล้วผมก็รู้สึกว่า ศรเอามืออีกข้าง จับกระดาษชิ้นเล็กๆ<br>มาใส่ไว้ในมือผม<br>แล้ว.....บอกผมว่า เก็บไว้ให้ดีนะ นี่เป็นของชิ้นแรก<br>และชิ้นสุดท้าย<br>ที่ศรจะให้เธอได้....<br>พอเธอพูดจบ เธอก็ยิ้ม.... พร้อมกับที่ดวงตาทั้งสองของเธอ<br>ค่อยๆปิดลง...... มือทั้งของศร ที่กุมมือของผมไว้ ค่อยคลายออก<br>.......พร้อมกับเสียงดัง ปี๊บบบบบ ยาว จากเครื่องวัดชีพจร<br>ผมหันไปมองเครื่องวัดชีพจร...... จากที่วัดคลื่นได้เป็นหยักๆ<br>ตอนนี้มันกลายเป็นเส้นตรงไปแล้ว.... พ่อแม่ของศร ตกใจมาก<br>ร้องเรียกหมอเสียงดัง ผมทำอะไรไม่ถูก ยืนช๊อคอยู่ตรงนั้น...<br>น้ำตาผมไหล....ไหลออกมา....ไหลไม่หยุด....<br>ไหลจนแทบจะไหลเป็นสายเลือด...... ท้องฟ้าข้างนอก หม่นหมอง<br>สายฝนเริ่มโปรยปราย ราวกับท้องฟ้าได้ร้องไห้ กับการจากไปของเธอ<br>ซักพักหมอก็เข้ามา.... แล้วบอกให้ผม กับพ่อแม่ศร ออกไปรอข้างนอก<br>หมอต้องรีบปั๊มหัวใจโดยด่วน ผมก็ได้แต่ รอ รอ ด้วยความหวังว่า<br>หมอจะช่วยชีวิตศรได้ สำเร็จ .... ..... ......... ........<br>.......<br>.......<br>ซักครู่ใหญ่ๆ หมอก็ออกมาจากห้องพัก พร้อมกับก้มหัวส่ายหน้า....<br>แม่ศรร้องไห้ออกมาลั่นทันที แม้แต่พ่อของศร ที่นิ่งเงียบมานาน<br>ก็ร้องไห้<br>โฮ ลั่นเช่นกัน.......<br>หมดแล้ว..... ผู้หญิงที่ชื่อศร.... นางฟ้าของผม.....<br>เพื่อนซี้คนเดียวของผม...... คนที่ผมรัก..... หมดแล้ว....<br>หมด.......<br>หมด...... หมด.... ... .. .ผมรู้สึกเหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่ง<br>น้ำตาผมไหลท่วมหน้า พร้อมกับนึกถึงศร และอฐิษฐานบอกเธอว่า<br>”””ไม่เป็นไรนะ ศร ถ้าเธอเหนื่อยมานาน เธอก็จงหลับให้สบาย<br>เธอไม่ต้องเหนื่อย เธอไม่ต้องทนลำบากอีกแล้ว... ลาก่อน....”””<br>ผมอฐิษฐานอย่างยากเย็น เพราะทำใจไม่ได้<br>............. มันลำบากใจยิ่งกว่าอะไรๆ<br>ในชีวิตผมทั้งหมดที่ผมเคยเจอมา<br>....<br>คืนนั้นผมกลับบ้านตอนตี4 มาพักที่บ้านผม ใน กทม.<br>ผมนอนนิ่งด้วยอาการช๊อค...แน่นิ่ง แต่พอดีผมนึกได้...<br>ผมเลยกางกระดาษที่ศรให้ไว้ออกมาดู<br>สิ่งที่ผมได้เห็นทำให้ผมงุนงงยิ่งนัก.......<br>มันเป็นกระดาษลายการ์ตูนน่ารัก แบบมีเส้นบรรทัด ในกระดาษ<br>เขียนไว้ว่า <br>“ก ylno ว^or” ศรขออวยพรให้เธอสมหวังกับทุกๆเรื่องในชีวิต.... จาก<br>ศร...<br><br>”ก ylno ว^or” มันคืออะไร.... นี่เหรอ พรที่ศรให้ผมมา<br>ก่อนเธอจะจากผมไป แบบไม่มีวันกลับ<br>เธอทิ้งปริศนาอะไรไว้ให้ผม....?<br><br>26 สค - 2 กย. 2541<br>งานศพของศร ถูกจัดอย่างเงียบๆ<br>ไม่มีคนไปร่วมงานมากมายนัก.........<br>จบเรื่อง.... ของผู้หญิงคนนึง ของนางฟ้าของผมคนนึง ที่ชื่อศร<br>ไว้เพียงเท่านี้...<br><br>เหลือแค่เพียง.... กระดาษปริศนา กับข้อความ “ก ylno ว^or”<br>........................<br><br>25 สค. 2543<br>อีก 1 ปี ผ่านไป.....กับวันที่ปริศนาตัวหนังสือ “ก yluo ว^or”<br>ไขกระจ่าง......<br>..........1 ปี แล้ว ผ่านไปอีกแล้ว 1 ปี กับการจากไปของศร....<br>พรที่ผมไม่ได้พูดขอ.... คำตอบที่ศรไม่ทันได้อยู่พูดบอก.....<br>คืนนึงผมนั่งมองกระดาษที่ศรให้ผมมา เมื่อ 1 ปีที่แล้ว<br>ผมเอากระดาษแผ่นนั้น ไปใส่เคลือบแล้วใส่กรอบใสไว้<br>ผมยังตีความไม่ออก<br>ว่ามันคืออะไร...... ผมได้แต่นั่งเศร้า<br>นั่งรำลึกถึงเหตุการณ์ที่บาดหัวใจผมไม่รู้ลืม เมื่อ 1 ปีก่อน...<br>ผมยังไขปริศนาตัวหนังสือมานานครบปีแล้ว.....<br>ตัวหนังสือพวกนี้คืออะไร....<br>ผมนั่งน้ำตาไหล...อยู่คนเดียวในห้อง<br>นึกถึงศร ถึงคำอฐิษฐาน... ผมหลับตานั่งนึกถึงศร<br>แล้วผมก็อฐิษฐานว่า.....<br>ศร.... คำตอบที่ศรให้เรามา มันคืออะไรเหรอ บอกเราหน่อยนะ.....<br>แล้วไม่รู้บังเอิญ หรืออย่างไร ลมก็พัดเข้ามาในห้องผม วูบใหญ่ๆ<br>ทำเอากรอบใส่กระดาษที่ศรให้ผมมา ตกพื้น...<br>กระดาษที่อยู่ข้างในกรอบ.....พลิกกลับหัวขึ้นมาอีกด้านนึง......<br>“ก yluo ว^or” ....... น้ำตาผม....ไหลออกมาทันที...<br>ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดีใจ<br>หรือรู้สึกอย่างไรดี.... แต่.. นี่เหรอ สิ่งที่ศรต้องการจะบอกผม<br>ก่อนเธอจะจากผมไป....<br>แต่เมื่อตัวอักษรปริศนานี้ไขกระจ่างออกมาได้<br><br>ผมจึงรับรู้ได้ ว่าพรที่ผมขอเธอ ที่ผมได้อฐิษฐานร่วมกับเธอ...<br>ก่อนเธอจะจากไป มันสัมฤทธิ์ผล..มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว<br>แต่ผมไม่เคยรู้เลย....<br>ข้อความนั้นก็คือ........<br>” LOVE ONLY U " :: <br>
ความคิดเห็นที่ 161
mintada
02/01/2547
13:59 น.
ใคร บ่น อะไร วะ
ความคิดเห็นที่ 162
power engineering
02/01/2547
21:58 น.
จุฬาเก่งจริงทำไมไม่สร้างเทคโนโลยีใหม่ออกมาเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีตามนโยบายของรัฐบาลล่ะ ประเทศไทยจะได้กินดีอยู่ดีไม่มีคนตกงาน ไม่ใช่เก่งแค่ใช้เทคโนโลยีเท่านั้น การใช้เทคโนโลยีใครๆก็ใช้เป็นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากน้อยเพียงใดแค่นั้นเอง ให้คุณพึงระลึกเสมอว่าคุณคือคนไทย และจะตอบแทนผืนแผ่นดินไทยอย่างไร ท้ายนี้ผมขอฝากถึงวิศวกรทุกคน ให้ใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมาทำประโยชน์ให้กับประเทศมากๆนะครับ จากคนรักชาติ
ความคิดเห็นที่ 163
Nong
11/01/2547
01:01 น.
มาดูที่โรงงาน SIAM NGK บ้างซิ<br>Eng 4 ปี และ 3ปี ทำงานร่วมกันไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลยเพราะไม่<br>ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกัน และตั้งใจทำงานเพื่อโรงงานของเรา<br>
ความคิดเห็นที่ 164
air
12/01/2547
14:29 น.
ว่าไปแล้วจะจบ ๓ ปีหรือ ๔ปี จบจากรัฐหรือเอกชนมันอยู่ที่ความสามารถของบุคคลมากกว่าไม่เกี่ยวกับสถาบันหรอกอยู่ที่จุดเด่นของแต่ละคน
ความคิดเห็นที่ 165
คนอยากเห็นประเทศไทยเจริญ
15/01/2547
09:54 น.
อย่าแบ่งแยกกันเลย ช่วยกันพัฒนาประเทศดีกว่า
ความคิดเห็นทั้งหมด 663 รายการ | «    6  7  8  9  10  11  12  13  14  15    »
แนบรูปประกอบ:
นามสกุล *.jpg , *.gif เท่านั้น
ชื่อผู้ตอบกระทู้:
คำถามเชิงวิศวกรรม(ตอบเป็นตัวเลขเท่านั้น):
2 เซ็นติเมตรมีกี่มิลลิเมตร
ระบุข้อความยืนยันด้านล่าง: