15/07/2545 01:05 น. |
วศ.บ.4ปีที่จบจากม.6มา กับ วศ.บต่อเนื่อง3ปี ที่จบจากปว.ส. มา ตลาดแรงงานต้องการแบบไหนครับเพราะอะไร |
28/06/2547 10:04 น. |
cu ก้อไปเป็นขี้ข้า japan อีกทีนั่นแหละ<br>อย่ามาโม้นักเลย มาทำหุ่นแข่งกับพวกเราให้ชนะก่อนแล้วค่อยโม้<br>เห็นหดหัวทุกปี<br> |
28/06/2547 17:58 น. |
ถึงจะถามความแตกต่างกันมันก็หางานลำบากครับถ้าเข้าไปสมัครงานในโรงงานที่ไม่มีสีเราเป็นใหญ่ในนั้นโอกาสที่จะได้งานนั้นจะเป็น "0"เพราะวิศวะเข้าจะรับพวกเดียวกันและสถาบันเดียวกันถ้าต่างสถาบันก็เป็น"0"ถึงจะเรียนวิศวะมาก็ตามที |
28/06/2547 21:25 น. |
ผมเองจบ อส.บ.ทำงานในนิคมอุตฯ แถวชลฯ อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วย<br>วิศวกร (รองหัวหน้า) มีเด็กนักศึกษาจาก ภาควิศวฯไฟฟ้า 4 ปี ของรัฐฯที่มีชื่อเสียงอย่างมากมาฝึกงาน ผมใช้ให้หยิบ MAC. CON. (แมคเนติก คอนแทคเตอร์) คุณท่านดันหยิบหม้อแปลงมา และอีกครั้งที่ผมให้วัดแรงดันที่ภาค OUTPUT ซึ่งจะมีแรงดันไฟ DC แต่ดัน เอา RANGE OHM มาวัด แต่อีกคนมาฝึกงานเช่นเดียวกัน แต่มาจากเด็กต่อเนื่อง วศ.บ. 3 ปี เก่งกว่าครับ ทำให้เห็นว่า4 ปีเก่งแต่ ท. และต่อเนื่องก็ทำได้ทั้ง ท. และป. และความคิดของ 172ช่างโง่เขลามากครับ <br>ไม่เหมาะเลยกับวิศวกร <br> |
30/06/2547 17:02 น. |
จบที่ไหนไม่สำคัญขอให้พวกผมได้มีโอกาสได้ทำงานแล้วพวกผมก็จะพิสูจน์ให้คุณได้เห็น อส.บ.ต่อเนื่อง |
04/07/2547 23:17 น. |
อสบ อะ <br><br>ไม่เกี่ยวนะ ไปดีกว่า |
06/07/2547 01:53 น. |
ถึงคุณ 172! ขอถามหน่อยว่าคุณจบวิศวะหรือว่าซื้อใบปริญญาวิศวะมากันแน่? ถึงได้ไม่มีจิตสำนึกและจรรยาบรรณเอาเสียเลย ดูถูกคนแบบนี้น่าจะมีปัญหาด้านสมองไปอบรมด้านจริยธรรมบ้าง อ่านแล้วเสียความรู้สึกจริง ๆ ผมจบต่อเนื่องเหมือนกัน ที่ทำงานมีทั้ง 3 ปี 4 ปี ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเรามากกว่า<br> |
07/07/2547 19:45 น. |
คุณลองนำความรู้ทั้ง ท.และ ป. ที่คุณมีมาสร้างสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาสักชิ้น แล้วคุณจะไม่มีเวลามาทะเลาะกัน ผมเองกำลังทำอยู่ได้ 60%แล้วหล่ะ |
08/07/2547 15:41 น. |
ไร้สาระ ทะเลาะกันอยู่ได้ จะจบ 3 ปี หรือ 4 ปี ก็ไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่าแบบไหนจะดีกว่ากันครับ<br>มันเป็นความเชื่อและความรู้สึกของพวกคุณที่กำหนดมันขึ้นมาเองทั้งนั้น <br>การที่สามารถเข้าใจถึงหน้าที่,บทบาท และความรับผิดชอบของวิศวกรต่างหากที่สำคัญ ถึงจะเรียกได้เต็มปากว่า พวกคุณเป็นวิศวกรที่แท้จริง<br>กะอีแค่ได้เรียนจบและรับแผ่นกระดาษมา 1 ใบ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกคุณเป็นวิศวกรที่แท้จริงได้ ทุกวันนี้ผมเห็นจบมาเต็มไปหมดใครๆก็เรียนได้ ทั้งแบบ 3 ปี และ 4 ปี จะล้นเมืองอยู่แล้ว <br>เวลาสมัครเข้ามาทำงานกันก็มีทั้งทำงานได้ดีและไม่ดีปนกันไป เป็นเรื่องธรรมดา สถาบัน ,หลักสูตร 3ปี/4ปี มันก็ไม่ได้หนีกัน จะรู้มาก รู้น้อย พื้นฐานมันอยู่ที่สันดานของแต่ละคนทั้งนั้น ความรู้ที่พวกคุณเรียนกันมาไม่สามารถเอาไปใช้กับการทำงานได้ทั้งหมดหรอกครับ มันต้องมีการประยุกต์ คิดค้น และจากจิตได้สำนึก(สันดาน) ที่ติดตัวมาของแต่ละคนด้วย ว่าคุณจะเป็นวิศวกรจริงๆหรือเปล่า การได้ทำงานในตำแหน่งใหญ่โต เป็นหัวหน้า หรือในองค์กรใหญ่ๆ มันไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดว่าพวกคุณจะเป็นวิศวกรที่เก่ง หรือดี เสมอไป ดังนั้นไม่ต้องมาเถียงกันว่าแบบไหนดีกว่า หากพวกคุณคิดว่าพวกคุณคือวิศวกรที่แท้จริง ก็ควรทำหน้าที่และปฏิบัติตนให้ดีที่สุดเท่าที่วิศวกรจะกระทำได้ก็พอ <br>สำหรับหัวข้อกระทู้ที่ถามว่าแบบไหนตลาดต้องการมากกว่ากันนั้นผมไม่สามารถตอบได้อย่างใดอย่างหนึ่ง มันอยู่ที่แต่องค์กร หน่ายงาน หรือเส้นสาย โอกาส และคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ว่ามีคุณสมบัติหรือกฏเกณฑ์ ตามที่กำหนด หรือไม่ (ซึ่งมันก็ไม่มีมาตรฐานเหมือนกับที่คุณเรียนมานั่นแหละว่าหลักสูตร หรือสถาบันไหนดีกว่ากันจริงๆ) แต่ที่แน่ๆทุกๆที่คงไม่มีใครอยากได้วิศวกรที่ไม่สามารถทำงานได้ตามที่เค้าต้องการแน่ จะ 3 หรือ 4 ปี ก็มีสิทธิ์เหมือนๆกัน โอกาสก็มีเหมือนๆกัน ขึ้นอยู่กับว่าพวกคุณได้แสดงความสามารถที่โดดเด่นออกมา ตรงกับที่พวกเค้าต้องการหรือเปล่า หากใช่เค้าก็รับ หากไม่ใช่ก็อด อย่าลืมว่าทุกๆที่ต้องการคนมาช่วยทำงานไม่ใช่สถานสงเคราะห์ รับเลี้ยงวิศวกร <br>ดังนั้นเริ่มจากตัวเราเองก่อน สร้างจุดเด่นของเรา และพยายามลบจุดด้อย แล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นโทษว่าไม่ได้งานทำเพราะ จบ 3 ปี/4 ปี สถาบันโน้น สถาบันนี้ ไม่มีเส้น โดยที่ไม่ได้ดูตัวเองเลย <br>อายคนที่เรียนจบไม่ถึง ปริญาตรีที่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเจ้านายพวกคุณเปล่าๆ |
11/07/2547 00:09 น. |
คนไทยเชื้อชาติไทย อย่าแบ่งสีสัน อย่าแบ่งปี 3ี - 4 ปีเจริญ ยังไงก็วิศวะ เรียนมาได้ก็ต้องทำงานให้ได้ ช่วยกันพัฒนาชาติไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยี |
11/07/2547 11:16 น. |
ถ้ามี คนที่เก่งทั้งปฏิบัติและทฤษฏีจะดีไหม |
12/07/2547 22:11 น. |
คำนิยามของวิศวกร คืออะไร ? ทุกคนน่าจะให้คำนิยามในตรงนี้ให้ได้ก่อนนะ อย่าแบ่งชนชั้น หรือแบ่งสีกันเลย จะทำงานที่ไหนๆ งานจะต่ำหรือสูง ก็เป็นลูกจ้างเค้าทั้งนั้นแหละ ผมเองไปทำงานที่ไหนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นวิศวกร รู้แต่ว่าตั้งใจทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย และก็ทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ รู้จักคิดและวางแผนแล้วมองไปข้างหน้า รู้จักการเสียสละเพื่องาน ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร ไม่ทำตัวเองให้ว่างงาน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ดูถูกคน,ให้เกียรติผู้อื่น และรู้จักเคารพผู้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ทุกคนมีรึยัง ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ คุณก็จะเจริญรุ่งเรืองในสายงานของคุณไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็ตามนะครับ |
14/07/2547 11:28 น. |
คำตอบที่ 172 โดนใจมาก ผมก็เรียน วศ.บ.3 ปีไอ้ที่ว่าเป็นหัวหน้าคนชั้นต่ำแต่อาจสูงค่าที่จิตใจ แต่ไอ้สังคมชั้นสูงอย่าง 4 ปีได้แต่ดีว่าตัวเองเก่งจิตใจมันต่ำยิ่งกว่าคนชั้นต่ำอีก ไอ้พวกเล่นสีทั้งหลายทำอะไรเป็นบ้างนอกจากเลียขาเจ้านาย เข้าตำรา(ขายน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน ขี้เก็ก) วศ.บ.3ปี เจ๋งกว่ามีตั้งหลายที่ ทั้ง ลาดกระบัง พระนครเหนือ บางมด ราชมงคล ยังไม่ขี้คุยเท่าพวก 4 ปี และชอบเล่นสีเลยเท่านี้ก็รู้ว่านิสัยเป็นไง |
14/07/2547 11:52 น. |
คำตอบที่ 172 กรุณาทำตัวให้สูงเหมือนสถาบันที่จบมาด้วย |
19/07/2547 09:23 น. |
ในอนาคต อาชีพ engineer จะไม่เป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยอีกต่อไป ลองคิดดูนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคนในชาติของเรามัวแต่มาถามกันในเรื่อง 3 หรือ 4 ปีดีกว่ากัน สามัคคีกันไม่ดีกว่าหรือครับ ผมคิดว่า คนที่จะเป็น engineer ที่ดีนั้น เขาไม่มัวมานั้งถามกันเรื่องนี้กันหรอกครับ เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างมาก สามัคคีกันไว้ คิดว่าเราเป็นengineer (ที่ไม่มี 3 หรือ 4 ปี) เหมื่อนกันดีกว่าครับ |
19/07/2547 09:37 น. |
สำหรับคำตอบที่ 172 ผมไม่เชื่อนะว่าคุณเป็น วิดวะ เพราะสิ่งที่คุณตอบมาทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าระดับมันสมองของคุณนั้นไม่เหมาะที่จะเป็น วิศวกรได้เลย ผมรู้สึกไม่สบายใจแทนสถาบันที่คุณจบมาจริงๆ |