![]() 19/09/2549 15:46 น. |
เรียนท่านผู้รู้ครับ<br> ปกติ Norminal Torque ของ Motor ที่ให้มาใน DATA SHEET ถ้าคำนวณเป้นกระแสจะได้กระแสประมาณ Rated Current ที่ให้มาตาม Name plate<br> แต่ที่สงสัยคือ ถ้าเราดู Curve Motor จะมี Curve Torque - Speed และบางทีก็มี Curve Starting current และเวลามาให้ด้วย <br> 1. Starting Torque ถ้าคำนวณจากกระแสจะใช้ Starting Current คำนวณได้หรือไม่ เช่น บอกว่า Starting Current ประมาณ 5 เท่าของกระส Rated ก็ทำการแปลงเป็น KW. จากนั้นจาก kw. ก็สามารถหา Torque ได้แล้ว (จาก P= Te * w)<br> 2. ทำไมข้อมูลใน Data Sheet ส่วนมากบอก Maximum torque (โดยปกติจะเป็น Starting torque) น้อยกว่า Locked Rotor Torque ทำไมไม่บอก Maximum Torque = Locked rotor torque ไปเลย หรือว่า ถ้าใช้ Torque ถึง Locked Rotor Torque แล้ว Motor จะเสียหายไปแล้ว เอ๊ะแล้วถ้าใช้ถึง Maximum torque ละ เป็นอย่างไร <br> 3. การ Set O/L จะ 100%หรือ 125%ก็ตาม มี Concept ไหมครับ ว่ามีการ Set Overload เพื่อให้ Overload Trip ก่อน Coupling หรือ Gear ที่มาต่อกับ Motor พัง <br> ยกตัวอย่างนะครับ มีมอเตอร์ต่อกับ Load เป็น Coupling อยู่ตัวหนึ่งแล้ว วันดีคืนดี Coupling เกิดพังขึ้นมาและมีการตั้งสมติฐานกันว่า ทำไมมอเตอร์ไม่ Trip ก่อน ทำไมปล่อยให้ Run จน torque สูงจน Coupling พัง ผมได้เจอเหตุการณ์แบบนี้จึงอยากปรึกษาครับ Thermal Overload Relay ออกแบบมาป้องกัน Motor ไม่ใช่หรือ แล้วการที่จะป้องกันด้านโหลดแบบนี้มันน่าจะเป็นผลทางอ้อมที่ไม่น่าจะระบุเป็นจุดประสงค์ว่า Motor ต้อง Trip ก่อน Coupling ขาด แต่น่าจะเป็น พูดว่า Motor trip โดย Overload relay เพื่อป้องกัน Motor เสียหายจากความร้อนเนื่องจากกระแสมากกว่า -------------- รบกวนด้วยครับท่านผู้รู้<br> |
![]() 19/09/2549 19:57 น. |
จากข้อ3 เกี่ยวกับ Acceleration Torque ไหมครับ<br>ที่ทำให้ Coupling<br> แล้ว Acceleration Torque คืออะไรครับ<br>ค้นเจอสมการ บอกไว้ดังนี้ <br> T a = (WK)2 * (RPM) / 308*t<br> Ta = แรงบิดที่ต้องใช้เพื่อการเร่งความเร็ว(ปอนด์ * ฟุต) ของมอเตอร์<br> WK2 = แรงเฉื่อยของโหลด (ปอนด์ *(ฟุต)2 )<br> RPM = ค่าความเร็วที่เปลี่ยนแปลง(ความเร็วปลาย - ความเร็วต้น)<br> t = ช่วงเวลาที่ต้องการในการเปลี่ยนความเร็ว<br>สงสัยคือเกิดตอนไหน และถ้าเกิดทำไมทำให้เครื่องจักรที่ต่ออยู่พังได้ ถ้าเกิดขึ้น Protection Motor ไม่ Trip ก่อนหรือ?<br> |
![]() 19/09/2549 19:58 น. |
thermal overload relay จะไม่สามารถป้องกัน Locked Rotor ได้ใช่ไหมครับ |
![]() 20/09/2549 23:16 น. |
ขอให้ความคิดเห็นตามหัวข้อคำถามอย่างนี้ครับ<br><br>1.เข้าใจว่าสามารถคำนวณ กลับไปกลับมาไดเ หรือ รู้กระแสสตาร์ทก็สามารถหาแรงบิดขณะสตร์ทได้ แต่พารามิเตอร์ที่ใช้ในการคำนวณ เราจะไม่สามารถหาค่าได้ เช่น อิมพีแดนซ์ของโรเตอร์ และค่าคงที่ต่างๆ ซึ่งค่าพวกนี้จะเป็นค่าที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะในแต่ละโมเดลของมอเตอร์ และยี่ห้อ ทำให้มอเตอร์มีสตาร์ทติ้งทอร์ค ต่อพิกัดทอร์ค แต่ละตัวไม่เท่ากัน<br><br>2. Maximum Torque และ Starting Torque จะเป็นค่าคนละตัว ถ้ามอเตอร์ที่มี การออกแบบทั่วๆไป Maximum Torque จะเป็นค่าที่มอเตอร์ผลิตแรงบิดได้สูงที่สุด ซึ่งเป็นอยู่ ณ. ค่าที่มอเตอร์มีความเร็วรอบแล้วส่งผลให้ค่า XL และ R ของโรเตอร์มีค่าเท่ากัน ซึ่งโดยปกติจะมีความเร็วอยู่ที่ 85 เปอร์เซนต์ของความเร็วสนามแม่เหล็กหมุน ถ้าเข้าไปศึกษาในรายละเอียดจะได้ว่า ค่า XL ของโรเตอร์จะมีค่าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามความถี่ของโรเตอร์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามความเร็วรอบของโรเตอร์ที่เปลี่ยนแปลง<br><br>ส่วนค่าของสตาร์ทติ้งทอร์ค กับค่าของล๊อคโรเตอร์ทอร์คจะมีค่าเกือบเท่ากัน เพราะเป็นแรงบิดที่มอเตอร์ผลิตออกมาได้ในสภาวะเกือบเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ ล๊อคโรเตอร์ความร้อนจากการใช้งานจะทำให้ค่าความต้านทานของโรเตอร์เปลี่ยนแปลงมากขึ้นไปบ้าง ฉะนั้นเข้าใจว่า ล๊อคโรเตอร์ทอร์คควรจะมีค่าต่ำกว่า สตาร์ทติ้งทอร์คอยู่บ้าง แต่คงไม่มากนักจนสามารถที่อาจจะไม่นำมาพิจารณาก็ได้<br>คำถามว่าเราสามารถใช้งานมอเตอร์ในสภาวะ Maximum Torque ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ ถ้าเราสามารถระบายความร้อนของขดลวดที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากกระแสที่ไหลเข้ามอเตอร์อันมาก หรือมีการใช้งานในระยะเวลาอันสั้น และไม่ทำให้ความร้อนสะสมมากขึ้นจนส่งผลเสียหายกับระบบฉนวนของมอเตอร์ <br>และเมื่อเราเพิ่มโหลดของมอเตอร์เกิน จุดที่เป็น Maximum Torque มอเตอร์ก็จะหยุดหมุนและอยู่ในสภาวะ Lock Rotor ฉะนั้นจุดพิกัดทอร์ค ของมอเตอร์ คือจุดที่มอเตอสามารถผลิตแรงบิดเพื่อขับโหลด และมีความสามารถระบายความร้อนที่เกิดจากกระแสที่ใช้ในการผลิตแรงบิด ในการขับโหลด แล้วมีอุณหภูมิสูงขึ้นตามค่าที่กำหนดในรูปของ Temp Rise โดยมีระยะการใช้งาน ตามค่า Duty Cycle และถ้าเราเปลี่ยนจุดใช้งานของแรงบิดที่สูงขึ้นย่อมจะทำให้ค่าต่างๆเปลี่ยนไป เพราะจะมีความสัมพันธ์กันอยู่<br><br>3. เข้าใจว่าปัญหาของคุณ ช่างใหม่ คือเกิดความเสียหายของ คัปปลิ้ง แล้วอุปกรณ์ป้องกันไม่ทำงาน หรือไม่ป้องกันคัปปลิ้งไปด้วย จากประสบการ์ณคัปปลิ้งมักจะเกิดความเสียหาย กับโหลดประเภทที่มีแรงเฉื่อย สูงๆ มีการทำงานแบบ หมุนกลับไป กลับมา หรือมีการเบรค ความเสียหายที่เกิดขึ้นที่คัปปลิ้งมักจะไม่เกิดขึ้นทันทีทันใด โดยปกติจะค่อยๆเกิด ถ้ามีการตรวจสอบ และมีการใช้งานอย่างปกติ คัปปลิ้งมักจะไม่เกิดความเสียหาย <br>ส่วนคำถามว่าในกรณีเกิดการล๊อคโรเตอร์ทำไมโอเวอร์โหลดไม่ทำงาน ผมคิดว่าคัปปลิ้งเกิดความเสียหายสะสมโดยอาจจะเกิดสเตรจที่ตัวของมันเองเนื่องจากการใช้งาน แล้วส่งผลให้เกิดคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงทำให้ความแข็งแรงลดลง และเมื่อมีโอกาสเกิดการโอเวอร์โหลดคัปปลิ้งจึงขาดก่อนที่โอเวอร์โหลดหรือ โปรเทคชั่นต่างๆจะทริปวงจรออก ( อันมีคงต้องศึกษาเป็นกรณีๆกรณีไป ) โดยแน่นอนว่า Thermal Overload Relay จะทริปวงจรออก เมื่อมอเตอร์เกิดการ Lock Rotor และมีเวลานานพอตาม คลาสของโอเวอร์โหลดที่จะทำงาน( ทริป) |
![]() 22/09/2549 15:05 น. |
ขอบคุณครับ |
![]() 06/12/2550 21:04 น. |
starting torgue คืออะไร |