11/06/2549 08:04 น. |
ผมมีปัญหามารบกวนถามครับ คือว่าผมมี MOTOR 6.9 KV. 450 KW. เมื่อขณะทำการ Start พบกระแส Unbalance Ia = 234 Ib=234 Ic=208 A. ขณะ Run Ia= 25 Ib=25 Ic=21 A. ผมทำการตรวจสอบมอเตอร์ โดยการ Meg , Micro Ohm Test วัดค่า Ohm แล้วทุกอย่างปกติหมดครับ ส่วนสายก็ Meg แล้ว <br>ผมอยากทราบว่าปัญหามันคืออะไรครับ มีคนให้ยกมอเตอร์ไปทำ Surge Test ที่ 0.5 Uแต่ผมยังไม่อยากยกมอเตอร์ไปครับ ช่วยแนะนำผมทีครับ ผมควรจะเช็คอะไรต่อครับ |
13/06/2549 13:27 น. |
ได้ตรวจสอบระดับแรงดันไหมครับว่าแต่ละเฟสต่างกันเท่าไร ถ้า<br>ทุกอย่างไม่ต่างกันให้ตรวจสอบ VCB และ Fuse ว่าหน้า contact bad ไหม และสุดท้ายต้องนำมอเตอร์ไปตรวจสอบละเอียดอีกครั้ง ด้วยวิธี Surge และอื่นๆ ถ้ามีข้อสงสัยสอบถามได้ครับ<br>บ.ก้าวหน้าอิเล็คทริคฯ<br>ผมทำงานเกี่ยวกับ งานซ่อมบำรุงมอเตอร์ AC, DC, Servo,Pump, Generatorทั้งในส่วน Overhaul / Rewinding ( Low voltage & Hight voltage ) และด้าน Mechanic ถ้าท่านใดต้องการทราบรายละเอียด โปรดติดต่อ 059160070 ได้ครับ <br><br>บริการตรวจวัดคุณภาพไฟฟ้าและปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า ได้ถึง 3000 A ทั้งในระบบหนึ่งเฟสและสามเฟส สามารถวัดค่าทางไฟฟ้าได้ทุกค่าเช่น kW,kVA,kVAR,PF,V,A, ปริมาณของแรงดันและกระแสฮาร์มอนิกแต่ละอันดับ ฯลฯ บันทึกค่าอย่างต่อเนื่อง แสดงผลได้ทุกวินาที ดูเป็นกราฟและค่าตัวเลข นอกจากนี้ยังแสดงรายงานผลการวิเคราะห์โดยทีมงานที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน<br>ยินดีรับใช้ครับ<br> |
14/06/2549 13:13 น. |
เวบนี้เขาห้ามโฆษณานะ |
15/06/2549 08:47 น. |
Impedance ของแต่ละ phase เป็นอย่างไรบ้าง ควรเอา surge comparison tester ไปวัดเทียบ phase โดยป้อน voltage supply เท่าหรือมากกว่าค่าใช้งานแล้วดูผลจากกราฟว่ามัน inphase กันทุกคู่หรือไม่ |
16/06/2549 23:07 น. |
ขอให้ความคิดเห็นอย่างนี้ครับ<br>สาเหตุที่ทำให้มอเตอร์มีกระแส ไม่เท่ากัน หรือ Unbalance Current ได้แก่<br><br>1. แรงดันของแหล่งจ่ายไม่สมดุลย์<br>2. เกิดค่าความต้านทานที่ผิดปกติต่ออยู่กับการส่งจ่ายระบบไฟฟ้าเข้ามอเตอร์<br>3. เกิดความผิดปกติที่มอเตอร์<br> 3.1 แกนเหล็กที่สเตเตอร์เกิดความเสียหาย <br> 3.2 รอยต่อหรือจุดเชื่อม ระหว่างสายหลีดที่ต่อออกมาจากขดลวดกับหางปลา หรือจุดต่อต่างๆ ที่อยู่ภายในมอเตอร์ และเทอร์มินอลไม่แน่น เกิดการหลุดหลวม<br> 3.3 เกิดการ ช๊อตวงจรของขดลวดเฟสใดเฟสหนึ่ง<br><br>วิธีการทดสอบ<br> สาเหตุที่ 1 และ 2 ให้ทดลองสลับสาย ไฟจากแหล่งจ่ายเข้ามอเตอร์ดู เช่น สายเข้ามอเตอร์ เดิมเข้าเป็น RST ให้สลับเป็น STR และดูการเปลี่ยนแปลง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงกระแสที่ไหลเข้ามอเตอร์ ( เช่น เดิมเฟส U, Z กินกระแส สูง และเปลี่ยนเป็นกระแสต่ำ ) แสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่มอเตอร์ และตรงกันข้ามถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงปัญหาจะอยู่ที่มอเตอร์<br><br>การตรวจสอบความผิดปกติที่มอเตอร์ ก็จะมีการตรวจสอบ <br><br>การตรวจสอบแกนเหล็กสามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธี คอร์ลอสเทส ซึ่งต้องทำที่ โรงซ่อมมอเตอร์ และถอดโรเตอร์ออก<br><br>ส่วนการตรวจสอบสาเหตุที่ 3.2 และ 3.3 สามารถทำได้โดย<br>1. วัดค่าความต้านทานขดลวด<br>2. วัดค่าอินดักแตนซ์ หรืออิมพีแดนซ์<br>3. การวัด เสริจเทส<br>การวัดทั้งสามข้างต้นสามารถทำได้ที่หน้างาน โดยเฉพาะ การวัดค่าอินดักแตนซ์ และเสริจเทส มอเตอร์ต้องสามารถขยับโรเตอร์ได้<br><br>ตามความคิดเห็นแล้วควรที่ทำการสลับสายเข้าแหล่งจ่ายดูก่อนเพื่อที่จะสรุปว่าสาเหตุไม่ได้มาจากแหล่งจ่ายไฟ และถ้าต้องการทำเสริจเทส ควรจะทำที่แรงดันสูงกว่า 0.5 U เพราะถ้าทดสอบที่แรงดันต่ำกว่าแรงดันพิกัดแล้ว การเสริจเทสก็ไม่น่าจะให้ผลอะไรมากนัก <br><br>และจากความคิดเห็นส่วนตัว เสริจเทสมักจะใช้ทดสอบมอเตอร์ที่เกิดปัญหาที่ไม่สามารถสตาร์ทได้ หรือสตาร์ทมอเตอร์แล้วชุดควบคุมทริป มากกว่าการเสริจเทสเพื่อหาความไม่สมดุลย์ของอิมพีแดนซ์เพราะ ในขณะที่แรงดันปกติยังทำให้ กระแสเกิดการไม่สมดุลย์ถ้าเรานำเสริจเทจมา ทำการเสริจย่อมแน่นอนว่า ต้องแสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากค่าอิมพีแดนซ์ของแต่ละเฟสไม่เท่ากัน และถ้าเกิดการช๊อตรอบขึ้นจริงซึ่งมีผลทำให้เกิดกระแสไม่สมดุลย์ มอเตอร์ไม่น่าจะสามารถสตาร์ทออกตัวไปได้ นอกเสียจากการสตาร์ทแบบที่ค่อยๆมีการปรับแรงดันเพิ่มขึ้น แต่ในข้อมูลที่บอกมาบอกว่ามอเตอร์สามารถสตาร์ทและขับโหลดได้ <br> |
06/07/2549 08:40 น. |
แล้วปกติแล้ว กระแสควรต่างกันเป็นเปอร์เซนต์เท่าไหร่ครับถึงจะยอมรับได้ เคยอ่านในบทความบางชุดบอกว่า ให้คิดสัดส่วนของกระแสที่ต่างกันมากสุด หารด้วย กระแสเฟสที่มากสุดแล้วคิดเป็นเปอร์เซนต์ ถ้าได้น้อยกว่า 5 เปอร์เซนต์ถือว่ายอมรับได้ <br> |
06/07/2549 08:40 น. |
แล้วปกติแล้ว กระแสควรต่างกันเป็นเปอร์เซนต์เท่าไหร่ครับถึงจะยอมรับได้ เคยอ่านในบทความบางชุดบอกว่า ให้คิดสัดส่วนของกระแสที่ต่างกันมากสุด หารด้วย กระแสเฟสที่มากสุดแล้วคิดเป็นเปอร์เซนต์ ถ้าได้น้อยกว่า 5 เปอร์เซนต์ถือว่ายอมรับได้ <br> |
06/07/2549 22:56 น. |
ขอให้ความเห็นอย่างนี้ครับ<br><br>เท่าที่ศึกษา และมีข้อมูลอยู่ สรุปได้ว่า มีการกำหนดโดย NEMA ว่า มอเตอร์จะใช้งานได้อย่างปกติเมื่อมีค่าแรงดันที่จ่ายให้กับมอเตอร์มีค่า Unbalance น้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์ และถ้ามากกว่า 1 เปอร์เซนต์มอเตอร์ควรที่จะมีค่า Derating Factor เข้าไปคูณเพื่อลดขนาดของโหลดที่จะนำมอเตอร์ไปใช้ขับ และไม่ควรนำไปใช้เมื่อมีค่า Unbalance Voltage เกิน 5 เปอร์เซนต์ เนื่องจาก แรงม้าหรือกำลังของมอเตอร์จะลดลงเหลือประมาณ 75 เปอร์เซนต์ของแรงม้าพิกัดเดิม<br><br>และเท่าที่ศึกษาดูไม่มีสแตนดาร์ทไหนกำหนดเรื่องกระแส Unbalance ว่ามีค่าเท่าไหร่ มีแต่บอกว่า ค่า แรงดัน Unbalance 1 เปอร์เซนต์จะทำให้เกิดกระแส Unbalance ประมาณ 6 เปอร์เซนต์โดยประมาณ<br><br>ซึ่งก็น่าจะหมายความว่าถ้าต้องการจะใช้มอเตอร์ที่มีกระแส Unbalance เกิน 5-6 เปอร์เซนต์จะต้องมีการลดโหลดลงมาเช่นเดียวกัน แรงดัน Unbalance เพื่อให้มอเตอร์สามารถใช้งานต่อไปได้โดยไม่มีอุณหภูมิที่สูงเกินปกติ |
10/11/2552 00:11 น. |
การตรวจสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า |