Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 176,798
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 174,171
3 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 173,457
4 100,000D_เครื่องมือช่าง 173,452
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 170,913
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 170,029
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 169,006
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 168,295
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 161,146
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 158,818
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 158,773
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 157,973
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 68,318
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 62,816
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 51,160
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 44,053
17 Industrial Provision co., ltd 39,850
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 38,798
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 36,713
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 35,041
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 33,974
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 32,322
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 31,741
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 31,469
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 27,975
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 26,969
27 P.D.S. Automation co.,ltd 23,347
28 AVERA CO., LTD. 23,102
29 เลิศบุศย์ 22,062
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 20,820
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 20,714
32 Electronics Source Co.,Ltd. 20,327
33 แมชชีนเทค 20,316
34 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 19,576
35 มากิโน (ประเทศไทย) 19,545
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 19,286
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 18,963
38 SAMWHA THAILAND 18,740
39 วอยก้า จำกัด 18,406
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 17,978
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 17,824
42 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 17,759
43 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 17,725
44 I-Mechanics Co.,Ltd. 17,670
45 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 17,602
46 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 17,595
47 Systems integrator 17,156
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 17,101
49 Advanced Technology Equipment 16,934
50 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 16,898
05/02/2549 10:23 น. , อ่าน 4,343 ครั้ง
Bookmark and Share
ปรึกษาคุณช่างซ่อมมอเตอร์ ;ชนิดการ break ระบบ Hoist
ช่างใหม่
05/02/2549
10:23 น.
ตามที่มีคนถามเรื่อง DC MAGNETIC BREAK<br>ผมมีเรื่องสงสัยใคร่ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้รู้ครับ<br> 1. พอดีลองจับ Manual ระบบ Hoist ขึ้นมาดูแล้วเห็นระบบ Break Hoist เขียนว่า Break โดยระบบ Conical Break ความหมายของ Conical Break เป็นอย่างไร หรือ ทำงานอย่างไรครับ<br> ในข้อ1นี้ผมลองSearch หาความรู้จาก Net เท่าที่พอจับประเด็นได้บ้างคือมีการออกแบบให้ Rotor ของ motor เป็นรูปกรวยแล้วถูกยันโดยแรงอัด Sprink จากนั้นดูโครงสร้างที่ประกอบกับชุด Rotor ก่อนถึง Ventilation Fan มีลักษณะเหมือนแผ่นจานกลมประกอบอยู่แล้วระบุชื่อว่า Conical Break สงสัยครับว่ามันทำงานสัมพันธ์กับแรงปลด-อัดให้ Sprink คลายตัวอย่างไร <br> ผมลองไปดูวงจรควบคุมทางไฟฟ้าจะเป็นวงจรธรรมดาคือจ่ายไฟเข้ามอเตอร์ธรรมดาโดยไม่เห็นขั้วจ่ายไฟเบรกในระบบนี้ หรือว่าไม่ต้องใช้ไฟจ่าย แล้วอำนาจแม่เหล็กที่จะเอาชนะแรงสปริงเพื่อปลดเบรก หรืออะไรก็แล้วแต่มาจากไหนครับในระบบ Conical Break ที่ว่านี้<br>2. ผมลองเช็คในระบบ Hoist อื่นๆดูบ้างว่า Break แบบไหนก็เจออีกลักษณะหนึ่งเขียนว่าเป็นแบบ DC MAGNETIC BREAK ซื่งจากการตรวจสอบที่วงจรไฟฟ้า พบว่ามีการ Tap แหล่งจ่ายออกมาต่างหากจากชุด หม้อแปลงแล้วจ่ายผ่าน Rectifier แล้วเข้าชุด DC MAGNETIC BREAK ซื่งในวงจรจะแยกจากแหล่งจ่ายไฟเข้ามอเตอร์ชัดเจน สงสัยอีกแล้วครับว่า DC magnetic break นี่เบรกแบบไหน จ่ายไฟเพื่อเบรก หรือ เพื่อปลดเบรก<br> 3. ถ้าลองมองจากการเบรกทั้งสองแบบนั้นเท่าที่เห็นทั่วไป Hoist ขนาดยกได้มากๆจะใช้ Break Conical ส่วน Hoist เล็กๆจะใช้ DC MAGNETIC BREAK ใช่หรือไม่ แล้วทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ<br> รบกวนปรึกษาครับ<br>
ความคิดเห็นทั้งหมด 6 รายการ |
ความคิดเห็นที่ 1
ช่างซ่อมมอเตอร์
05/02/2549
13:44 น.
ผมขอให้ความเห็นตามหัวข้อที่ถามมาอย่างนี้ครับ<br><br> 1. ก่อนหน้านี้ผมได้กล่าวถึงประเภทของ คอยล์เบรกว่ามี 2 แบบคือจ่ายไฟ แล้วปลดเบรก กับอีกแบบที่เป็น จ่ายไฟเพื่อเบรก แต่ถ้าเป็นประเภทของมอเตอร์เบรก ก็จะมีอยู่ 2 ประเภทเช่นกัน ( เท่าที่มีประสพการ์ณ ) คือ<br> 1.1 มอเตอร์ เบรก ที่มีมอเตอร์ ทำงานแยก กับ คอยล์เบรก ซึ่งคอยล์เบรก ก็จะมี 2 ประเภทอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้<br> 1.2 มอเตอร์ที่ทำงานทั้งสองหน้าที่ คือ ทั้งหมุนขับโหลด และปลดเบรก การทำงานของมอเตอร์ประเภทนี้ คือ มอเตอร์จะมีโครงสร้างของสเตเตอร์ และโรเตอร์เป็น รูปกรวย ( Cone ) ทำให้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าจ่ายเข้าที่สเตเตอร์ และตำแหน่งการจัดวางโรเตอร์กับสเตเตอร์ที่เยื้องกัน มีผลทำให้เกิดแรงเคลื่อนที่ในแนวแกน ( เคลื่อนที่จากกรวยใหญ่ทิศทางเข้าหากรวยเล็ก ) และเมื่อมีการเคลื่อนที่จะใช้การเคลื่อนที่นี้เป็นการปลดเบรก<br> ข้อดีของมอเตอร์ประเภทนี้<br> 1. มีระบบการคอนโทรลที่ไม่ยุ่งยาก เพราะจ่ายไฟเข้าสเตเตอร์อย่างเดียวไม่ต้องมีการจ่ายไฟเข้าคอยล์เบรกก่อน<br> 2. มีความเร็วออกตัวดีกว่ากว่าแบบ มอเตอร์กับคอยล์เบรก เพราะไม่ต้องรอให้เบรกจากก่อนแล้วค่ยอจ่ายไฟเข้ามอเตอร์<br><br> ข้อเสียของมอเตอร์ประเภทนี้<br> 1. มักจะใช้แบริ่งพิเศษ ที่ไม่ใช่เบอร์มาตราฐาน<br> 2. มักจะเกิดการสึกหรอ บริเวณปลายเพลามอเตอร์ที่มีลักษณะเป็นเฟือง เนื่องจากต้องมีการเคลื่อนที่<br> 3. บาร์โรเตอร์มักจะเกิดความเสียหายเนื่องจากการทำงานหนัก<br><br> 2. มอเตอร์เบรกโดยทั่วไป เป็นแบบจ่ายไฟเพื่อปลดเบรกครับ โดยปกติจะใช้สปริงทำให้เกิดแรงเสียดทานในการเบรก<br><br> 3. จากประสพการ์ณที่ผ่านมา จะตรงกันข้ามครับ มอเตอร์เบรกขนาดใหญ่มักจะเป็น แบบ มอเตอร์ ทำงาน แยก กับ คอยล์เบรกครับ เพราะอะไรที่ออกแบบมาโดยเฉพาะหน้าที่ของมันจะทำงานได้ดีกว่าแบบที่สามารถทำงานได้หลายอย่าง
ความคิดเห็นที่ 2
ช่างใหม่
05/02/2549
14:09 น.
ขอโทษครับ อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ถามอีกที<br>1.ถ้า Conical break แสดงว่าไม่ใช้การจ่ายไฟ DC ให้เกิดอำนาจแม่เหล็กเพื่อเอาชนะแรงสปริงใช่ไหมครับแต่เป็นการออกแบบให้โรเตอร์มอดตอร์เคลื่อนที่ชักเข้า-ออกในตอนเริ่มแรกจากแรงเคลื่อนที่ในแนวแกน เพื่อ เบรก หรือ ปลดเบรก ซื่งเป็นการอัดสปริงกับดันสปริง ถูกไหมครับ<br>2. ถ้าเกิดการ Overload Trip ขึ้นมาในระหว่างยกของ ถ้าเป็น DC MAGNETIC BREAK วัสดุจะยังคงค้างอยู่โดยการหยุดจ่ายไฟมีผลให้ Break ทำงาน<br> แต่ถ้าเป็น Conical Break ที่ว่านี้ถ้า Over load trip จะทำให้สิ่งของที่ยกรูดลงมาเลยโดยไม่ค้างถูกไหมครับ คือผมไม่เข้าใจครับว่าถ้าหยุดจ่ายไฟเข้ามอเตอร์แล้วเบรกในระบบ Conical ทำงานอย่างไร<br> 3. ขอถามเกี่ยวกับที่บอกว่ามอเตอร์ เบรก ที่มีมอเตอร์ ทำงานแยก กับ คอยล์เบรก หมายถึงออกแบบมอเตอร์ที่มี Coil break ติดมาในตัวเป็น Complete set ใช่ไหมครับ พอดีงง น่ะครับเห็นในวงจร Control เขียน Part Break กับ Motor แยกจากกัน หรือ จริงๆแล้วเป็นอย่างไร<br>ขอบพระคุณครับที่กรูณาตอบ / ช่างใหม่
ความคิดเห็นที่ 3
ช่างซ่อมมอเตอร์
05/02/2549
16:05 น.
ขอตอบตามหัวข้อที่ถามเพิ่มเติมดังนี้ครับ<br><br>1. เข้าใจถูกต้องแล้วครับ เพระมอเตอร์เบรกแบบนี้ จะไม่มีคอยล์เบรก และมอเตอร์จะเบรกก็ต่อเมื่อไม่มีการจ่ายไฟเข้าขดลวดสเตเตอร์ ที่ปลายเพลาด้านเพลาขับจะมีสปริงตัวใหญ่ติดตั้งอยู่ มีหน้าที่ดันโรเตอร์ที่มีจานเบรคส่วนที่เคลื่อนที่ให้ถอยหลังไปเสียดสีกับจานเบรคส่วนที่อยู่กับที่ ถ้าไม่มีการจ่ายไฟ แรงดันสปริงจะดันโรเตอร์ที่มีจานเบรคส่วนที่เคลื่อนที่ไปสัมผัสกับจานเบรคส่วนที่อยู่กับที่ทำให้เกิดการเบรค และถ้าเราจ่ายไฟเข้าไปที่ขดลวดสเตเตอร์ โรเตอร์จะเคลื่อนที่ไปด้านหน้า และหมุนไปในเวลาเดียวกัน การเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจะเป็นการปลดเบรก ซึ่งจะเห็นได้ว่ามอเตอร์ต้องทำงานสองอย่างในเวลาเดียวกัน คือเอาชนะแรงดันสปริงตลอดเวลาที่มีการใช้งานมอเตอร์ และในขณะเดียวกันต้องต้องขับโหลด และนี่ก็เป็นสาเหตุให้บาร์โรเตอร์ของมอเตอร์ประเภทนี้เกิดความเสียหายขึ้นบ่อยมาก<br> จากการทำงานข้างต้นมอเตอร์เบรกประเภทนี้จะไม่มี ประเภทการจ่ายไฟแล้วทำให้เกิดการเบรคครับ<br> <br>2. ถ้าเป็นมอเตอร์เบรกที่ใช้ในการยกของ ต้องออกแบบเป็นแบบเบรกด้วยสปริงหรือทางแมคคานิคอยู่แล้วครับ เพราะไม่อย่างนั้นในขณะยกของเกิดไฟฟ้าดับหรือผิดปกติขึ้นมา สิ่งของต้องตกลงมาอย่างแน่นอน (ผมอาจจะลำดับความไม่ดีทำให้อ่านแล้วสับสน ) และยังไม่เคยพบว่ามอเตอร์เบรกที่จ่ายไฟแล้วเบรกออกแบบมาใช้กับเครน หรือ ฮอยส์ ส่วนมากจะพบกับมอเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีโหลดที่มีแรงเฉื่อยมากๆ และถูกใช้งานกับเครื่องจักรที่อยู่กับพื้นดิน<br><br>3.มอเตอร์เบรกที่มอเตอร์ ทำงานแยกกับคอยล์เบรก ถ้ามองตามโครงสร้างแล้วจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าส่วนไหนที่เป็นมอเตอร์ และส่วนไหนที่เป็นส่วนเบรคแยกกันอยู่อย่างชัดเจน แต่จะประกอบอยู่ด้วยกัน<br> ส่วนถ้าเป็นชุดควบคุมก็แล้วแต่การออกแบบครับ แต่ส่วนมากที่เห็นจะออกแบบให้นำไฟที่จ่ายให้กับมอเตอร์จ่ายให้กับชุดเรตติไฟของชุดเบรคด้วย ฉะนั้นเมื่อมีการจ่ายไฟเข้ามอเตอร์ เบรคก็จะทำงานทันทีพร้อมกับมอเตอร์ แต่ก็จะมีการออกแบบที่มีระบบป้องกันที่ดีที่ออกแบบให้เบรคต้องทำงานก่อน โดยอาศัยสวิทช์ขนาดเล็กติดตั้งไว้ที่คอยล์เบรคเป็นตัวสั่งงานให้มอเตอร์ทำงานต่อจากเบรคอีกที ก็หมายความว่าถ้าคอยล์เบรกไม่ทำงานหรือปลดเบรก มอเตอร์ก็จะไม่ทำงาน มอเตอร์ก็เลยจะไม่มีโอกาสทำงานในสภาวะล๊อคโรเตอร์ ทำให้ช่วยให้มอเตอร์ไม่ค่อยเกิดความเสียหาย
ความคิดเห็นที่ 4
ฟางสีชมพู
11/11/2550
16:25 น.
มอเตอร์มีความสัมพันธ์กับแรงดันแม่เหล็กอย่างไร<br>อยากทราบด่วนค่ะจะทำรายงาน<br>
ความคิดเห็นที่ 5
www.tinamics.com
27/11/2550
09:11 น.
<a href="http://www.tinamics.com/s0103/index.php?tpid=0062&amp;pgid=0010&amp;menusub=12" Target="_BLANK">www.tinamics.com/s0103/index.php?tpid=0062&amp;pgid=0010&amp;menusub=12</a><br>การเบรกโดยวิธีการฉีดไฟฟ้ากระแสตรง(Dc injection braking)<br> การเบรกด้วยวิธีนี้ทำได้โดยการปลดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ออกจากขั้วของขดลวดสเตเตอร์ออกจากไลน์แล้วจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปกระตุ้นขดลวดในสเตเตอร์แทน ไฟฟ้ากระแสตรงจะสร้างสนามแม่เหล็กถาวรที่ขดลวดสเตอร์แต่ไม่ได้เป็นสนามแม่เหล็กหมุนเหมือนไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ตัวโรเตอร์ซึ่งเป็นขดลวดวงจรปิด ที่กำลังหมุนอยู่ด้วยแรงเฉื่อยจะหมุนตัดผ่านสนามแม่เหล็กถาวรจากไฟฟ้ากระแสตรง จะเกิดการเหนี่ยวนำแล้วมีกระแสไหลในขดลวดโรเตอร์จะสร้างให้เกิดแรงบิดต้านการหมุน เป็นผลให้กราฟแรงบิดของมอเตอร์เป็นกราฟแรงบิดเป็นแบบย้อนกลับหรือแบบเงา(Mirror)ใกล้เคียงกับเส้นกราฟของแรงบิดของมอเตอร์ ซึ่งความสูงของเส้นกราฟจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการฉีดปริมาณของกระแสของไฟฟ้ากระแสตรงที่จ่ายเข้าไปเพื่อทำการเบรก <br>
ความคิดเห็นที่ 6
amnuay
24/03/2555
09:19 น.
ทำไมต้องใช้ไฟDCในการเบรกมอเตอร์และผมเคยเจอไฟเบรกมี 2ชุด คือ100Vdc,12Vdcเพราะสาเหตุใดครับ
ความคิดเห็นทั้งหมด 6 รายการ |
แนบรูปประกอบ:
นามสกุล *.jpg , *.gif เท่านั้น
ชื่อผู้ตอบกระทู้:
คำถามเชิงวิศวกรรม(ตอบเป็นตัวเลขเท่านั้น):
2 เซ็นติเมตรมีกี่มิลลิเมตร
ระบุข้อความยืนยันด้านล่าง:
23 November 2024
:: MEMBER LOGIN
E-mail Account
Password
:: OUR SPONSORS
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD