10/04/2548 23:12 น. |
ขอคำแนะนำหน่อยเกี่ยวกับงาน Inverter, Micro, DSP,เขียนโปรแกรม งานทีได้ใช้ความรู้จริงๆ ได้ลุย ทำแล้วเก่งแน่ๆ อยากทำงานอย่างนี้จริงๆ ไม่ใช่งานประเภทใช้ปากกับลิ้นทำงาน<br><br> thank you <br> อยากทำงานที่ชอบ แต่ เลียไม่เป็น พูดไม่เก่ง<br> |
11/04/2548 07:48 น. |
จบอะไร ที่ไหนมา เก่งจริงหรือเปล่า มีประสบการณฺเปล่า? |
11/04/2548 08:37 น. |
ผมเห็นการตั้งคำถามแล้ว อยาก จะออกความเห็นบ้างนะครับ ในฐานะหัวหน้างานในบริษัทเอกชนเล็กๆ <br><br>1. ถ้าเราทำงานเก่งจริงๆ เป็นจริงๆ ไม่เห็นต้องไปสนใจสิ่งที่คุณว่าเลย เพราะผลงานมันจะสื่ออกมาให้เห็นอยู่แล้ว ว่าใครเป็นใคร ถ้าหน่วยงานเอกชนใดๆ ดูคนที่การเลียเก่ง พูดเอาใจเก่ง แต่ผลงานไม่มี ผมว่า บริษัทนั้น ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตแน่ และถ้าเจอ วิกฤติทางเศรฐกิจ เมื่อใด ก็ล้มแน่นอน เรา ก็ไม่ต้องไปอยู่สิครับ<br>2.คนหลายคนบอกว่าตัวเองเก่ง แต่บางครั้งทำงานร่วมกับคนอื่น หรือทำงานเป็นทีมไม่ได้ บางครั้งก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วย<br>3.ผมว่าคนทุกคนอยากทำงานสบายๆ และรายได้ดีๆ ทั้งนั้น แต่ต้องย้อนหลังคืนสักนิด ว่าคนที่เขาสบายๆ ในสายตาเรา ณ.เวลานี้ กว่าที่จะมาได้ถึงทุกวันนี้ เขา สู้มาแค่ไหน ขอให้มองคนที่เขา สามารถ เป็นเจ้าของกิจการได้ด้วยตัวเขาเอง อย่ามองที่เพื่อนรวมงาน ที่เราทำงานด้วย<br>4.ที่ผมพบเจอและมีโอกาสคุยด้วยตอนสัมภาษณ์งาน หลาย ๆ คนมาก จบมาแล้ว ไม่มีความรู้จริงในงานที่ตัวเองจะทำ อ่านตำราหรือคู่มือการทำงาน ภาษาอังกฤษ แทบไม่ได้หรือไม่เข้าใจไม่รู้เรื่องเลย<br>5.บริษัท ทุกๆ ที่เขาอยากได้คนมาทำงานและคิดไปถึงว่า เราคือเจ้าของบริษัทคนหนึ่งไม่ใช่ แค่ลูกจ้างคนหนึ่ง<br>6.ลองคิดดูว่า คุณเข้าไปทำงาน ในบริษัทเอกชนสักแห่งหนึ่ง คุณเข้าไป ในส่วนงานที่อาจจะตรงใจคุณ แต่ ไม่มีโอกาสได้คิดเลย ทำงานตามกรอบตามแผนที่หน่วยงานวางไว้ ไป วันๆ แต่รายได้ดี คุณ ชอบ หรือไม่ ผมว่า หลายคนชอบ แต่ลองคิดดูสิว่า งานแบบนั้นๆ แสดงว่าใครๆ ก็ทำได้ และถ้านานๆ ไป ถ้าเขาไม่ต้องการคุณล่ะ คุณเองจะทำอะไร ได้บ้าง เพราะที่ผ่านมาความรู้ ที่ร่ำเรียนมา ไม่เคยได้ใช้เลย และ ถ้าอายุสัก 35-40 ปี ขึ้นไปแล้วต้องตกงานล่ะ ผมว่า งานหายากนะครับ<br><br>ทั้งหมดที่เขียนเล่ามา จากความรู้สึกส่วนตัวนะครับ อยากให้ น้องๆ หลายคนที่จะจบไปหางาน หรือ อยากเปลี่ยนงาน ลองคิดดูบ้างครับ |
11/04/2548 13:46 น. |
เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับ คำตอบที่ 2 ครับ น้องที่ตั้งกระทู้ น่าจะเป็นเด็กที่พึ่งจะจบหรือทำงานได้ไม่นาน ช่วงจบใหม่หรือทำงานใหม่ วิศวกรใหม่ มักจะสนุกสนานเกี่ยวกับการเรียนรู้ ชอบทำงานแบบ ลุย ๆ แต่พอเรียนรู้มากขึ้นจนคิดว่ารู้หมดแล้ว หรือมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น มีครอบครัว รับรองได้เลยว่าแนวความคิดจะเปลี่ยน |
13/04/2548 16:20 น. |
ก็เห็นด้วยกับทั้ง 2 คำตอบนะครับ ผมขอสนับสนุน คำว่า ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ยังใช้ได้ดีนะครับคำนี้ |
18/04/2548 23:53 น. |
ไช่ครับพี่ ดีครับท่าน ทันครับผม เหมาะสมครับเจ้านาย<br>ท่องไว้เจริษแน่ว่ะ |
20/04/2548 20:13 น. |
การพัฒนาคนในระดับองค์กร หรือระดับประทศ ส่วนใหญ่เราจะมองถึงระบบการศึกษา และมักจะพูดว่า ระบบการศึกษาของเราไม่ดี ผมไม่ปฎิเสธเสียทั้งหมด อาจจะอยู่ที่คนด้วย<br> วันนี้ทำงานมา 15 ปี พบว่ายิ่งทำงานยิ่งต้องอ่าน และอ่านมากขึ้นด้วย และต้องศึกษามากขึ้น และหากหลายแขนงวิชาด้วย เป็นการศึกษาที่ไม่มีอาจารย์สอนเลย ผมคิดว่าคนทั่วไปมักติดยึดอยู่กับสถานศึกษาในฐานะแหล่งความรู้<br>เวลาลูกน้อง หรือเด็กจบใหม่ มีปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมืออุปกรณ์ มักจะถามวิธีใช้กับผม แทนที่จะเปิดคู่มืออ่านเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องฝึก เพราะเมื่อถามแล้วได้คำตอบง่ายๆ ก็จะไม่อยากดิ้นรนเรียนรู้ด้วยตนเอง ผมพบว่าสิ่งใดที่เรียนรู้ด้วยตัวเองจะจำได้แม่ยำกว่าเมื่อมีคนสอน เหมือนสมัยก่อนกว่าจะรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษต้องเปิดดิกชั่นนารี่ พร้อมทั้งท่องไปด้วย กว่าจะหาเจอก็จำคำๆนั้นได้พอดี เด็กสมัยใหม่ คีย์ในคอมพิวเตอร์ได้คำแปล แต่จำไม่เคยได้ เพราะมันได้อะไรมาง่ายๆ ไม่ต้องใช้สมอง ถ้าไม่รู้ก็ถามคอมพิวเตอร์ใหม่จึงไม่เคยจำ ภาษาอังกฤษก็เลยแย่ เพราะ โรงเรียนสอนไม่ดี กลับไปโทษคนอื่นอีก<br>ในชีวิตการทำงานของผม ผมได้เรียนรู้หลายอย่าง วิธีการเรียนรู้มีหลายวิธี ไม่ว่าเขาจะตั้งใจสอนหรือไม่ หลายครั้งที่ผมรู้สึกหงุดหงิด เมื่อได้ยินลูกน้องบ่นทำนองว่า บริษัทไม่เคยสอนเขา จะให้เขาทำงานเป็นได้อย่างไร สถาบันการศึกษาไม่เคยสอน จะให้เขารู้ได้อย่างไร <br>ผมว่าความคิดแบบนี้สะท้อนถึงวัฒนธรรม บางอย่างของไทยเราที่ต้องสอนก่อนจึงจะรู้ได้ จึงจะทำได้ ไม่ชอบเรียนรู้ด้วยตนเอง ชอบให้มีคนสอน เพราะ เร็ว ง่าย ดี สะดวก เหมือนเพื่อนผมเคยพูดในวงสังสรรค์ “เด็กรุ่นใหม่อย่าว่าแต่จะเอาความรู้ยัดใส่ปากให้เลย อ้าปากกินความรู้ยังขี้เกียจเลยมีหรือจะปรุงอาหารแล้วตักใส่ปาก สงสัยต้องเอามีดผ่าเปิดฝากะโหลก แล้วตักความรู้ยัดใส่เข้าไปในสมองถึงจะรับ” ฟังแล้วเห็นภาพ ความไม่เอาไหนของเด็กไทยรุ่นใหม่ แล้วประเทศชาติจะเป็นเช่นไรในอนาคต<br>มนุษย์แตกต่างกันที่ความเร็วในการเรียนรู้ ทุกคนมีโอกาสในการเรียนรู้เหมือนกัน แต่ใครจะมีอัตราการเรียนรู้ที่เร็วกว่านั่นคื่อคุณค่าของคน<br>อะไรคือแรงจูงใจให้คนพัฒนา อย่างแรกคือ นิสัยใฝ่เรียนรู้ และความทะเยอทะยาน อีกอย่างคือถูกบังคับ โดยเฉพาะคนไทย ต้องถูกบังคับ ถูกวัด และถูกตรวจสอบ และถูกประเมินผลการเรียนรู้ <br>คนในเมืองไทยมักมีค่านิยมให้เรียนจบก่อนแล้วจึงจะเข้าทำงาน ไม่เคยคิดเลยว่าทำไม่ไม่ให้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ความคิดนี้ต้องเปลี่ยนทัศนะคติ ให้ครอบครัว หรือผู้ปกครองมี่ส่วนร่วม หรือสถาบันการศึกษาเข้ามาอบรมคนที่ทำงานแล้ว อาจารย์จะได้รู้ว่าโลกธุรกิจเป็นอย่างไร รวมทั้งได้เรียนรู้ด้วยตนเอง อาจารย์ควรจะถูกสอนบ้าง ไม่ใช่อาจาร์ยยังไม่รู้เลยว่าโลกเป็นอย่างไร หมกมุนอยู่แต่กับตำราอย่างเดียว แขนงวิชาเดียว ให้มีการเรียนรู้หลากหลายแขนง และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน จึงจะนับว่าเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งระบบ ของประเทศ |
03/11/2550 01:52 น. |
จาจคำตอบที่2<br>ntn_w <br>พูีูุ่ดนั้นไม่ได้หมายถึงงานที่คุณทำ |