27/06/2558 10:27 น. |
เคยอ่านบทความเกี่ยวกับการชาร์ตมือถือในรถยนต์ จากสื่อออนไลน์บางฉบับ ซึ๋ได้เขียนบรรยายไว้ดังนี้ (เตือน) รู้บ้างไหม?! ชาร์ตมือถือในรถ เสีย 2 เด้ง!! ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องใช้โทรศัพท์ในการสื่อสารติดต่อตลอดเวลา หลายหลายคนก็เสพติดโซเชียลเน็ตเวิร์ค จนถึงขั้นนับโทรศัพท์เป็นปัจจัยที่ 6 จึ่งเป็นที่มาของการชาร์ตแบตในรถ ซึ่งหลายคนเน้นสะดวกเป็นหลักแต่หารู้ไม่ว่าเสียงให้โทรศัพท์แบตเสื่อมเร็วกว่าปกติและแบตเตอรี่รถยนตร์จาก อายุการใช้งานจาก 2 ปี จะเหลือเพียง 15 เดือนถึง 18 เดือน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าแบตรถยนต์เสื่อมจะทำให้การสตาร์ตติดยากขึ้น แบตโทรศัพท์จากการ ใช้งานได้ประมาณ 8 ถึง 12 ชั่วโมงก็จะลดเหลือเพียง 5 ถึง 6 ชั่วโมง เนื่องจากไฟที่จ่ายจากแบตเตอรี่รถยนตร์สู่ ที่จุดบุหรี่กระแสไฟค่อนข้างจะผันผวนไม่สม่ำเสมอ อาจจะชะงักกระชากเมื่อระบบแอร์ทำงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงกับแบตเตอรี่ในมือถืออย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันขณะที่สายเข้าหรือมีการใช้งานโทรศัพท์โทรศัพท์จะดึงกระแสไฟจากรถยนต์มาใช้เป็นจำนวนมากนั่นหมายความว่าจะทำให้แบตเตอรี่ในรถยนต์ทำงานหนักมากกว่าปกติซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเช่นกัน จะเห็นได้ว่าโทรศัพท์แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมเนื่องจากชาร์ตในรถจะเต็มเร็วกว่าปกติ จากการชัดที่บ้านนั้นเป็นสัญญาณว่าเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว แนะนำให้ใช้เพาเวอร์แบงค์ดีกว่าการเสียบชาร์ตในรถหรือใช้เพาเวอร์แบงค์ชาติกับรถแล้วจึงนำมาเสียบกับโทรศัพท์มือถือเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและรถยนต์ ไม่ทราบว่าเพื่อนๆนักเทคโนโลยีมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างงครับ ชาร์จมือถือในรถแล้วจะทำให้อุปกรณ์อายุสั้นจริงเหรอ ???? |