13/03/2558 08:50 น. ,
อ่าน 2,340 ครั้ง
ทำไมพวกคนฉลาดถึงเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่ดี
แอดมิน
13/03/2558
08:50 น.
|
ยากจะเชื่อแต่ทักษะหนึ่งที่ทำลายเจ้าของกิจการมานักต่อนักแล้วคือความฉลาด! ใช่แล้วล่ะ…ยิ่งคุณประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่และยิ่งคุณมีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ คุณยิ่งเป็นเจ้าของกิจการยากขึ้นเท่านั้น
แปลกใจล่ะสิว่าทำไมคนฉลาดที่น่าจะคิดอะไรเป็นขั้นตอน มีตรรกะที่ดี และมีความคิดสร้างสรรค์ถึงเป็นเจ้าของกิจการที่แย่ เรามี 3 คำตอบมาให้คุณช่วยกันถกเถียงดูครับ
1.คนเก่งจะพยายามเก่งในทุกๆ เรื่อง
ลองคิดถึงสมัยทำงานกลุ่มกับคนเก่งสิ สุดท้ายแล้วงานกว่า 80% มักจะไปตกอยู่กับพวกเก่งๆ ที่ไม่เคยพอใจผลงานคนอื่นและเหมาไปทำเองคนเดียวทั้งหมดเนื่องจากไม่อยากเอาเกรดตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับเพื่อนหัวขี้เลื่อยทั้งหลาย
แม้จะดูดี แต่พฤติกรรมนี้ทำให้พวกคนฉลาดเป็นคนที่ไม่รู้จักใช้คนและไม่รู้จักการแบ่งงานกันทำเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ผลงานดีขึ้น เมื่อเขาไม่รู้จักใช้หรือเชื่อใจคนอื่นเลยก็ Game Over ธุรกิจไม่มีวันโต
2.พวกจอมโดดเรียนมักเป็นผู้ประกอบการที่เจ๋งไปเลย
น่าสนใจมากว่าพวกจอมโดดเรียนทั้งหลายนี่แหละที่จะเป็นเจ้าของกิจการชั้นดี เพราะคิดในมุมกลับ เขาเป็นคนที่พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางพวกฉลาดเพื่อให้ตัวเองพัฒนาและไม่ต้องทำงานยากๆ ให้เหนื่อย เรียกง่ายๆ ว่าพวกขี้เกียจนี่แหละที่รู้จักการ “ใช้คน” และรู้ว่าสถานการณ์ไหนตนเองได้เปรียบ (ได้เกรดน้อยไปก็ไม่รู้สึกอะไร)
3.คุณฉลาดกับเรื่องที่คุณทำได้นั้นแหละ
ก็ด้วยนิสัยที่ชอบทำอะไรเองคนเดียวทั้งหมด พวกเขาเลยไม่รู้จักการพัฒนาระบบและแบ่งย่อยงานเพื่อให้คนอื่นมารับช่วงต่อไปได้ นอกจากนี้คนฉลาดมักจะสร้างระบบให้ “คนฉลาด” ด้วยกันใช้ ซึ่งแน่นอน คนงานหรือพนักงานของพวกเขาไม่ได้รู้เรื่องกับสิ่งที่คนฉลาดสร้างขึ้นสักนิดเดียว
4.ฉลาดเกินไปก็ไม่ดี
คนฉลาดไม่ชอบทำเรื่องอะไรง่ายๆ เพราะมันไม่ท้าทายเอาเสียเลย ดังนั้นพวกเขามักจะสร้างอะไรพิศดารและลึกล้ำโดยไม่ทันคิดว่าคนที่มาทำธุรกิจให้พวกเขาจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า หาก CEO ของ McDonald คิดเช่นนี้ธุรกิจของเขาก็คงไม่รุ่งเรื่องมาจนปัจจุบัน จำไว้ว่าระบบหรือนวัตกรรมที่ดีต้องทำงานได้ไม่ว่า “ไอ้งั่งที่ไหนจะมาคุมเครื่อง” ก็ตามที
5.มีเรื่องให้เสียมาก
พวกคนฉลาดมักจะมีงานการดี มีอนาคตสดใสและมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิ่งที่ต้องสละไปมากมายหากตกลงใจมาเป็นผู้ประกอบการ หากคิดตามหลักเศรษฐศาสตร์คุณก็มีค่าเสียโอกาสที่แพงลิบลิ่วเมื่อเทียบกับพวกไม่เก่งที่ไม่ค่อยมีตัวเลือกให้เลือกได้มากเท่าไหร่นัก
สุดท้ายคนเก่งก็เลยได้แต่นั่งอยู่หน้าคอมฯ และทำงานรับใช้พวกไม่เก่งต่อไป
|
ความคิดเห็นทั้งหมด 5 รายการ |
ความคิดเห็นที่ 1
16/11/2561
11:29 น.
|
น่าปวดหัว ซื้อเขาดีกว่า ถ้าพื้นฐานความรู้ไม่ดีก็จะคิดแบบนี้ ถ้าจะให้ผมทำธุรกิจซื้อมาขายไปผมก็ทำได้ แต่ผมไม่ชอบ ผมว่ามันไร้แก่นสารและสูญเสียตัวตนเกินไป ผมต้องการเป็นผู้สร้างมากกว่าผู้ใช้
|
ความคิดเห็นที่ 2
17/11/2561
03:19 น.
|
คนบางคนเกิดมาเพื่อทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นคนรวย ถ้าหากโลกขาดคนแบบนี้โลกจะไร้ซึ่งอารยธรรม
|
ความคิดเห็นที่ 3
02/02/2562
21:32 น.
|
คนหาทุนมาทำก็หาไป คนหางานมาทำก็หาไป คนหาทางปิดงานก็หาไป แต่ละคนก็มีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง เหมือนนิทานเรื่องนิ้วมือทั้งห้าทะเลาะกัน ไม่มีนิ้วไหนมีอำนาจเหนือนิ้วไหนจริงๆ ต่างต้องพึ่งพากันถึงจะทำหน้าที่มือได้อย่างสมบูรณ์
|
ความคิดเห็นที่ 4
03/05/2562
08:53 น.
|
คนฉลาดคุยกับอัจฉริยะรู้เรื่อง อัจฉริยะคุยกับก้อนหินรู้เรื่อง ยิ่งฉลาดยิ่งต้องซื่อสัตย์กับความจริงที่แท้ทรู พวกขี้โกงผมไม่นับเป็นคนฉลาด เป็นแค่คนที่ยังลุ่มหลงในรูปรสสัมผัส
|
ความคิดเห็นที่ 5
05/05/2562
06:36 น.
|
วิธีขจัดความเลื่อมล้ำของประเทศพัฒนาคือการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกรรมไปเป็นสังคมอุตสาหกรรม ไม่ใช่การโค่นล้มชนชั้นปกครองให้หมดไปจากสังคม
|
ความคิดเห็นทั้งหมด 5 รายการ |