21/09/2554 11:49 น. |
เปิดโชว์เคสทางปัญญา จุดประกายโลจิสติกส์ไทยคือศูนย์กลางอาเซียน ด้วยกรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย กำหนดจัดงาน Thailand International Logistics Fair 2011 (TILOG 2011) ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 22–25 กันยายน 2554 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการทั้งไทยและต่างประเทศ และพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนไทยให้มีประสิทธิผลสูงสุด เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าของ AEC ในปี 2558 ดร.เนตรปรียา มุสิกไชย ชุมไชโย ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์การค้า กรมส่งเสริมการส่งออกกล่าวว่า “ นอกเหนือจากการที่ TILOG 2011 จะเป็นเวทีเจรจาการค้าระดับอาเซียนและระดับโลกแล้ว ยังเป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยรวมทั้งคู่ค้าต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลเพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ลดต้นทุนเพื่อประสิทธิภาพและกำไรทางธุรกิจ และการที่ไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญแห่งภูมิภาคในการกระจายสินค้าไปยังตลาดอาเซียน และตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ในปีนี้เราจึงเปิดให้มีโชว์เคสทางปัญญา เพื่อจุดประกายโลจิสติกส์ไทยคือ ศูนย์กลางอาเซียน” โชว์เคสส่วนที่หนึ่งคือ นิทรรศการ “ASEAN Plus Logistics Network Gateway to the World” เพื่อแสดงศักยภาพของไทยในด้านการเป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์ในอาเซียน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดการค้าเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN ECONOMIC COMMUNITY - AEC) ซึ่งจะต้องมีการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างกันในภูมิภาคและกับประเทศต่างๆเพิ่มมากขึ้น เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงจุดเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์ในบริเวณพื้นที่ตามข้อตกลง Greater Mekong Sub Region โชว์เคสส่วนที่สองคือ Logistics Theater ซึ่งรวมวิดีทัศน์และบทบรรยายทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพของระบบจัดการด้านโลจิสติกส์ของไทย เช่น ระบบคลังสินค้า สินค้าคงคลัง การกระจายสินค้า ระบบการตรวจเช็คสต็อก ระบบ Warehouse Management รวมถึงยุทธศาสตร์ของไทยเมื่อก้าวเข้าสู่ AEC ในปี 2558 ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้ความรู้กับผู้สนใจได้นำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเอง นอกจากนี้จะเป็นการนำเสนอศักยภาพของธุรกิจไทยในการเป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์ในกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศอาเซียน+6 โดยแสดงให้เห็นถึงความพร้อม และระบบการให้บริการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทยทุกรูปแบบ ทั้งทางบก น้ำ ราง อากาศและไอทีเทคโนโลยี “กิจกรรมการประกวดโลจิสติกส์โมเดลในปีนี้หรือ ELMA ซึ่งเริ่มประกวดภายใต้กฎเกณฑ์ระดับสากลเป็นครั้งแรกเพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทย ก็จะมีการนำเสนอผลงานผู้ชนะสามสาขาภายในนิทรรศการ ASEAN Plus logistics Network Gateway to the Worldด้วย”ดร.เนตรปรียา มุสิกไชย ชุมไชโยกล่าว |