26/08/2554 17:02 น. |
อยากสอบถาม พี่ๆ หน่อยว่า ทำไมเราต้องช๊อต CT เมื่อนำไปคล้องกับสายไฟแต่ไม่ไ้ด้ใช้งานด้วย มันจะทำให้ CT ไหม้อย่างไงได้ครับ ขอบคุณครับ |
29/08/2554 13:44 น. |
เอ่อ ผมขอตอบตามวิถีช่างที่พอรู้นะครับ พูดจาประสาให้เป็นที่เข้าใจพอสังเขป ดีกว่าไม่มีใครมาตอบเลย อิอิ ส่วนโดยหลักการทางวิศวกรรมคงต้องให้ท่านที่เป็นวิศวะ มาตอบครับ การopen loop ทำให้ การเหนี่ยวนำของ CT ด้านSec (ซึ่งมีTurn Ratio winding ที่สูง) ทำให้แรงดันที่เกิดด้านนี้สูงมาก (ขึ้น ลง ตามกระแสที่ไหลผ่านทางด้าน Pri) จนทำให้ แรงดันด้าน sec (ขณะ Open )มากเกิน จนหาที่สิ้นสุดมิได้ ทำให้เกิดความเสียหายตาม คำถาม ที่ ถามมา หากclose loop โดยต่อวงจรที่ด้านSec โดยปกติจะมีค่าความต้านทานต่ำๆ เป็นโหลด จนสามารถ ช๊อต ให้เป็น 0 ทำให้แรงดัน ส่วนที่จะเกิดความเสียหายมัน ไม่มีโอกาส โผล่หัวออกมาให้เห็น อิอิ ผมรู้แค่เนี๊ยะ ผู้รู้ท่านอื่นน่าจะเข้าใจผมและช่วยต่อยอดที นะ นะ อิอิ |
30/08/2554 17:03 น. |
ข้อควรระวังเรื่องการใช้ ซีที เมื่อต่อ CT แต่ไม่มีโหลด จะต้องลัดวงจรหรือช๊อตเอาต์พุต (ด้าน Seccondary) ไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ CT เสียหาย เนื่องจากแรงดันอินดิวซ์ (V = Ldi/dt) ตอนเกิดทรานเซียนต์จะทำให้ di/dt มีค่าสูงมาก ทำให้แรงดันอินดิวซ์สูงจนทำให้ลวดด้า Seccondaryเสียหาย ในขณะช๊อตเอาต์พุต จะมีกระแสไหลเท่ากับกระแสบัส/(1000/5)ดังนั้นกระแสสูงสุดเท่ากับ 5A รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ลิงค์นี้ http://www.9engineer.com/index.php?m=reference&a=show&reference_id=1019 |
30/08/2554 20:58 น. |
ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบของทั้งสองท่าน ถามต่ออีกนิดนึงว่า ที่ว่าทรานเชียนต์ที่ำทำให้ ซีที เกิดความเสียหาย นี่เกิดจากการใช้งานปกติ เช่น การสตาร์ทมอเตอร์ ใช่หรือเปล่าครับ หรือต้องเป็นเฉพาะการเกิดฟอลท์ครับ |
05/09/2554 08:54 น. |
ขอเสริมท่าน Admin นิดนึงครับ คือปกติเวลาใช้งานด้าน Primary ของ CT จะรับกระแสตลอดเวลใช่มั้ยครับและ พอเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสด้าน Secondary ก็จะมี Flux แม่เหล็กมาหักล้างกับ Flux แม่เหล็กที่สร้างมาจาก กระแสด้าน Primary ทำให้ค่า Flux ที่เกิดในแกนเหล็ก มีค่าไม่มากเกินไป และ แกนเหล็ก ไม่อิ่มตัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่ีกระแส Secondary ไหลในวงจร จะไม่มี Flux แม่เหล็กไปหักล้างกับ Flux ทางด้าน Secondary ทำให้แกนเลห็กอิ่มตัว เม่ือกระแส Primary เปลี่ยนแปลงแบบ Sine Wave คือ จาก 0 > ipeak > 0 > -ipeak > 0 Flux แม่เหล็ก จะไม่สามารถเพิ่มไปที่จุดสูงสุดและต่ำสุดได้เนื่องจากแกนเหล็กอิ่มตัว ทำให้รูปกราฟของ Flux เป็นเหมือนรูป Sine Wave ตัดยอด และที่จุดที่ที่ตัดยอดนี้เอง ถ้าเราทำการ Differentiate ค่า ของ Flux คือ e = -dflux/dt จะได้ค่าในลักษณะ Spike ยอดแหลม ที่มีค่าสูงมากๆ เนื่องจาก Flux มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากแบบทันทีทันใด ซึ่งค่า e ก็คือแรงดันเหนี่ยวนำในขดลวด ซึ่งการที่แรงดันสูงมากเกิดขึ้นในขดลวดทำให้เกิดความเสียหายแก่ CT นั่นเอง ดังนั้นการ Short CT จึงเป็นการทำให้มีกระแสไหลในด้าน Secondary เพื่อไม่ให้ Flux แม่เหล็กในแกนเหล็กมีค่ามากเกินไปนั่นเอง |
05/09/2554 08:58 น. |
ขอแก้ไข Flux แม่เหล็กไปหักล้างกับ Flux ทางด้าน Secondary เป็น Flux แม่เหล็กไปหักล้างกับ Flux ทางด้าน Primary |
25/10/2554 15:00 น. |
โดยปกติแล้ว พิกัดที่บอกสำหรับตัว CT จะเป็น Rate ของการทำงาน CT ที่จะไม่ใหเสียหายของขดลวด แต่สำหรับการออกแบบ เขาได้เพื่อ โดยมีค่า Safety foctor ในการพันขดลวดของ CT เพื่อป้องกันอยู่แล้ว สำหรับ accuracy ของ CT จะขึ้นอยู๋กับ Burnden และ Class ของ CT ครับ |