18/06/2551 21:13 น. |
ผมอยากรู้อ่ะฮับ ว่า ทรานซิสเตอร์แบบธรรมดา กับ ทรานซิสเตอร์ที่เป็นแบบดาร์ลิงตัน ภายใน เช่น TIP 121 มันแตกต่างกันยังไง?<br>ใช่ตรงที่อัตราขยายหรือเปล่า ?,<br>แล้ววงจรภายในที่ต่อกันแบบดาร์ลิงตันนะ ช่วงระหว่างรอยต่อ มันจะมี R ใส่มาอยู่ 2 ตัว เพื่ออะไร ?<br>มีวิธีการคำนวณหาค่าไหม?<br>เมื่อไหร่ควรจะใช้ทรานซิสเตอร์ที่เป็นแบบดาร์ลิงตันภายใน?<br>ถ้าจะเลือกใช้งานกับมอเตอร์ดีซี ต้องดูอะไร จาก Data sheet เทียบบ้าง?<br> |
18/06/2551 22:02 น. |
โง่หรือแกล้งโง่เนี่ย |
19/06/2551 08:28 น. |
คุณ นะโม ภาษาอะไรของคุณ ฮับๆ คุณเป็นเด็กหรือ |
20/06/2551 21:12 น. |
แล้วคุณ 2 คน ตอบ ผมได้ป่าวฮับ..++ |
26/06/2551 10:59 น. |
ได้แต่ไม่อยากตอบ....ฮับ |
28/06/2551 23:59 น. |
ต่างกันตรงไม่ต้องไปต่อขยายสองต่อไงครับเพื่อความสะดวกสบาย<br>ทำมาสำเร็จ สำหรับอาร์คงมีไว้ไบอัส ทรานซิสเตอร์ จะทำงานด้วยการขยายกระแส ดูจากดาต้าชีท ค่าเบต้าน่ะครับ |
30/06/2551 11:03 น. |
บ้างครั้งมีผู้ที่ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบอิเลกทรอนิคคำถามเขาอาจจะถามแบบตรงเข้าใจตามที่เห็นโปรดอย่าได้ดูแคลยก็ช่วบๆกันไปนะครับ |
02/07/2551 17:23 น. |
การต่อ Transistor แบบ Darington เพื่อเป็นการขยายกระแสให้สูงขึ้นเพื่อไป Drive Load ที่คุณจะต่อ ส่วนค่า R ใช้ Bias ให้กับตัว Transistor Transistor จะมี ขนาด Small Signal แล้วจึงต่อไปขับ Power Transistor อีกที่หนึ่ง ที่นี้จะขับโดยตรงจากวงจรElectronic ของเราไปที่ Power transistor เลยที่เดียวไม่ได้หรือ คำตอบคือวงจรของเรากระแสที่จะไปขับ Power Transistor เลยไม่เพียงพอ จึงต้องต่อไปขับ Small Signal Transistor ก่อนแล้วจึงเอากระแส จากCollrctor ของTransistor ไปขับ Power Transistor อีกทีหนึ่ง แต่ถ้ากระแสขับจากวงจรของคุณเพียงพอก็เอาไปขับ Power Transistor ได้เลย ไม่ต้องต่อแบบ Darington |