03/02/2547 23:15 น. |
รบกวนสอบถามพี่พี่ครับ<br>1.ระบบปรับอากาศในบ้าน ถ้าเราติดแอร์อยากทราบว่าถ้าเราไม่ได้ติดพัดลมระบายอากาศที่ตรงด้านบนของห้องการระบายอากาศของระบบการปรับอากาศโดยปกติจะระบายทางใดและที่เราเห็นมีพัดลมระบายอากาศอยู่ข้างนอกห้องนั้น มันนำความร้อนออกไปได้อย่างไร<br>2.ระบบเบื่องต้นของการปรับอากาศเป็นอย่างไรครับ<br>3 ที่บ้านมีตู้แช่ไอศกรีม ที่ญาติให้มาแต่มันไม่เย็นเห็นญาติบอกต้องเติมน้ำยาเพราะน้ำยาหมดอยากทราบว่าอัตราการเติมแต่ละครั้งประมาณเท่าไร <br>3.1ใช้ตู้แช่นี้ได้นานเท่าไรน้ำยาแอร์จะหมดอีกครั้ง<br>3.2การเติมน้ำยาแอร์นั้นเรามีทางรู้ได้หรือไม่ว่าช่างได้เติมให้เราจนเต็มแล้ว ไม่ใช่เติมไปนิดหน่อยแล้วบอกว่าเต็มใช้ไปไม่เท่าไรก็ต้องเติมอีกครับ <br>ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ |
09/02/2547 22:07 น. |
1 การติดแอร์ในบ้านนั้นที่ติดพัดลมระบายอากาศก็เพื่อถ่ายเถอากาศดีเพื่อดีต่อสุขภาพ สำหรับในกรณีไม่ติดนั้นก็จะไม่มีการอากาศระบาย แต่ก็จะมีอากาศถ่ายเภผ่านขอบประตูหน้าต่างเล็กน้อยน่ะครับ ทางที่ดีควรติดพัดลมระบายอากาศไว้ดีกว่าครับ ถ้าไม่ติดก็อาจจะเปิดหน้าต่างไว้นิดๆถึงลมเย็นจะออกบ้างแต่ผมว่าจะดีต่อสุขภาพน่ะเดียวออกซิเจนไม่เพียงพอเดียวยุ่ง<br>2สำหรับระบบปรักอากาศเบื้องต้นนั้นอธิบายนั้นยาวครับเพราะเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและเครื่องกลด้วยต้องรู้เกี่ยวกับวิชาเทอร์โมไดนามิกส์ด้วย ถ้าอยากรู้แบบปฏิบัติ ผมแนะนำให้ไปหนังสือของ อ.สนอง อิ่มเอม ครับ เกี่ยวกับ ระบบปรับอากาศ<br>- ความหมายน้ำยาหมดนั้นถ้าผู้มีความรู้ด้านนี้คือมีการรั่วของน้ำยาออกจากระบบครับวิธีแก้ไขนั้นจะต้องหารอยรั่วก่อนครับหลังจากนั้นจึงเติมน้ำยาเขาระบบตามมาตรฐานของเครื่องแช่ และน้ำยาจะไม่มีวันหมดหรือเสื่อมน่ะครับ ตราบให้ไม่มีการรั่วซึม ดังนั้นถ้าช่างบอกว่าน้ำยาแอร์เสื่อมแสดงว่าช่างกำลังหลอกคุณหรือไม่ก็ไม่มีความรู้จริงครับ |
26/04/2547 22:32 น. |
เพิมเติมครับ<br>ระดับการเติมนำยาแอร์โดยมาตรฐาน 65 - 75 psi ดูได้ขณะที่ช่างทำการเติมนำ้ยาขณะที่ช่างต่อายเกจวัดที่มีสายสีต่าง 3 เส้นกับถังนำ้ยา |
08/06/2547 15:42 น. |
เรื่องที่ว่าเมื่อไหร่จะต้องเติมอีกนั้น โดยทั่วไปแล้วประมาณ 1ปีครึ่งน่าจะให้ช่างมาล้างหรือว่ามาเช็คน้ำยาสัก 1 ครั้งนะครับ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนถ้าอยากรู้ว่าช่างเติมน้ำยาให้เต็มหรือเปล่าคงต้องไปหาเกจวัดน้ำยามาแล้วล่ะครับ |