27/12/2550 11:19 น. |
คงไม่ต้องพะวงเลยครับ เรื่องเวียดนามจะแซงหน้าไทย <br><br>วันไหน ที่เรา ต้องเรียก ใช้ ผู้ทดสอบ ผู้ตรวจสอบ เครื่องจักร จาก ประเทศลาว ละก็ <br>ลืมเรื่องเวียดนาม ไปได้เลย <br> |
27/12/2550 11:42 น. |
คิดแล้วท้อเลย....<br>ปัญหาของเราคือเรื่องผู้นำใช่ไหมครับ.....<br>ตอนคุณทักษิณ ขึ้นมาใหม่ ๆ เราไม่เคยเห็นเวียตนามอยู่ในสายตาเลย เราคิดแข่ง กับมาเลเซียและคิดว่าจะแซงหน้าด้วย ฝันไกลไปถึงสู้กับสิงคโปร์ แต่มาวันนี้เราจะแพ้เวียตนาม อนิจจา.....<br>คุณทักษิณทำความหวังของคนทั้งชาติพังไปแล้ว...<br>ผมเคยได้ยินว่ามีโครงการจะแปลตำหรับตำราของต่างประเทศมาเป็นภาษาไทย ริเริ่มโครงการโดย อาจารย์สิทธิชัย โภคัยอุดม ไม่ทราบว่าโครงการนี้ยังอยู่หรือเปล่าครับ ถ้าเลิกไปน่าเสียดายมาก... |
27/12/2550 12:00 น. |
อย่าเพิ่งตกใจเกินเหตุไป ตั้งสติกันไว้ อย่าเพิ่งโทษใคร ฟังหลายๆความเห็นคัดลอกมาให้ดูกัน<br>-เศรษฐกิจของเวียดนามกำลังพบปัญหาใหม่ทั้งด้านบวกและด้านลบ กล่าวคือ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) ขยายตัวถึง 8.44% ในปีนี้ซึ่งเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกันคือ 12.6% เป็นสองเท่าตัวจากเมื่อปีที่แล้ว <br>-ธนาคารพัฒนาเอเชียคาดการณ์ว่า ปีหน้า ไทยจะโตที่ สี่จุดแปด เพิ่มขึ้นจากปี้ที่โตแค่สี่จุดสาม ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยปีนี้เท่ากับร้อยละสาม งบประมาณปีนี้คาดว่าจะขาดดุลร้อยละหนึ่งจุดเจ็ดของจีดีพี หนี้สาธารณะของไทยประมาณสามสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี หนี้ต่างประเทศร้อยละยี่สิบหกของจีดีพี ในภาพรวมคิดว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพค่อนข้างดี แต่การลงทุนยังน้อยอยู่อาจเพราะการเมือง ยังไงจะมีการลงทุนมากหรือน้อยต้องดูรัฐบาลใหม่ด้วยครับ <br>-เจโทรชี้พื้นฐานไทยดีกว่าเวียดนาม แนะลงทุนการแพทย์-ไอที-ไบโอเคมี ในภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างทรงตัว บรรยากาศการลงทุน เป็นสิ่งที่นักลงทุน ให้ความสนใจกันมาก เพื่อประเมินความคุ้มค่าของเม็ดเงินที่ต้องทุ่มลงไป และท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของเหล่าตลาดเกิดใหม่ เราลองมาเปรียบเทียบศักยภาพของไทยว่า อยู่ในระดับไหน จากมุมมองของต่างชาติที่อยู่ ในเมืองไทย นายโยอิชิ คาโตะ ประธานองค์การฝ่ายส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (เจโทร >> jetro >> japan external trade organization) ได้เปรียบเทียบศักยภาพของไทยกับเวียดนาม ที่หลายคนมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยในปัจจุบันว่า เวียดนามเป็นตลาดที่กำลังเติบโต และได้รับความสนใจจากต่างชาติ แต่ความเชื่อมั่นของหลายฝ่ายต่อการเติบโตของเวียดนามก็ยังไม่มากเหมือนกับความเชื่อมั่นที่มีต่อจีน การลงทุนในเวียดนามยังมีข้อจำกัด เนื่องจากระบบการปกครองทำให้มีการผูกขาดบางธุรกิจโดยรัฐบาล และโครงสร้างพื้นฐานก็ยังเป็นรองไทยอยู่ เนื่องจากไทยมีท่าเรือ สนามบิน ที่อยู่ในระดับดี ทำให้การผลิตสินค้าที่นี่ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทำได้สะดวก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนญี่ปุ่นก็มีการเดินทางไปดูลู่ทางในเวียดนาม เนื่องจากตามหลักการลงทุน ไม่มีบริษัทไหนที่จะเลือกลงทุนในประเทศเดียว จึงต้องศึกษาว่าจะสามารถเชื่อมโยงฐานผลิตในเวียดนามและไทยกับประเทศอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง เมื่อปี 2549 เวียดนามมีการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) มูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไทยมี 7 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อมองเฉพาะการลงทุนของญี่ปุ่นพบว่าการลงทุนหลักๆ ในเวียดนาม คือธุรกิจอุปกรณ์เครื่องมือการขนส่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และอาหาร ส่วนในไทยจะเป็นการลงทุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ประธานเจโทรฯระบุว่า ในอนาคตการลงทุนส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นยังอยู่ในไทย แต่ปัญหาตอนนี้คือ นักลงทุนต้องการลดต้นทุน จึงต้องดูว่าควรทำธุรกิจประเภทไหนในเวียดนาม ซึ่งมีค่าแรงถูกกว่า แต่สะดวกน้อยกว่าในไทย และมีข้อจำกัดด้านประเภทธุรกิจ ดังนั้น จึงต้องประเมินศักยภาพของทรัพยากรบุคคล บริษัทท้องถิ่น โครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่คิดว่าเวียดนามคือคู่แข่งของไทย แต่ไทยควรสนใจแข่งขันกับจีนมากกว่า และเน้นการลงทุนที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า ไทยมีความโดดเด่นเรื่องการออกแบบมาก และได้รับการยอมรับในระดับสากล บุคลากรไทยมีศักยภาพสูง เช่น รถอีซูซุที่ผลิตในไทยมีคุณภาพทัดเทียมกับรถที่ผลิตในญี่ปุ่น หรือรถโตโยต้าที่วางจำหน่ายทั่วโลก ก็ออกแบบในไทย นอกจากคนไทยมีศักยภาพสูงแล้ว ก็ยังสามารถสื่อสารเข้าใจกันได้ง่าย อาจเป็นเพราะมีพื้นฐานทางศาสนาเหมือนกัน นายคาโตะเห็นว่า รัฐบาลไทยควรสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น การแพทย์ ไบโอเคมิคัล ไอที เพราะไทยคงไม่สามารถแข่งขันเรื่องแรงงานถูกกับบรรดาตลาดเกิดใหม่ได้ จึงควร หันมาเน้นธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานฝีมือมากกว่า หรือเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทในภูมิภาค และธุรกิจการตลาด นอกจากนี้ นายคาโตะมองว่า พม่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ญี่ปุ่นสนใจลงทุน คาดว่าหากปัญหาของพม่าได้รับการแก้ไข หรือมีการเลือกตั้งในปีหน้า พม่าก็จะเป็นเป้าหมายการลงทุนที่มีศักยภาพอีกแห่งหนึ่งในอาเซียน สำหรับธุรกิจที่น่าลงทุนคือ ยานยนต์ โดยอาจจะย้ายโรงงานผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์ที่ต้องอาศัยแรงงานราคาถูกไปที่พม่า ขณะที่เปิดธุรกิจใหม่ในไทยแทน การดำเนินธุรกิจโดยมองภาพรวมเป็นตลาดอินโดจีน เป็นสิ่งที่ดี ต่อไทยและญี่ปุ่นอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ประธานเจโทรระบุว่า หากไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างตลาดของไทยให้เป็นตลาดสำหรับกิจกรรมทางธุรกิจที่ต้องอาศัยแรงงานฝีมือระดับสูงได้ ญี่ปุ่นก็อาจจำเป็นต้อง มองประเทศอื่นเพื่อทำธุรกิจแบบนั้นแทน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศทางธุรกิจในปัจจุบัน หากตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็จะเลือกมาลงทุน ในไทย และคาดว่าหลังการเลือกตั้ง นักลงทุน ก็จะยังมุ่งมายังตลาดแห่งนี้ ตราบใดที่รัฐบาล ยังคงดำเนินนโยบายเปิดกว้างสำหรับนักลงทุน ต่างชาติ ด้านภาพรวมทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกปี 2551 เจโทรคาดว่า ในกลุ่ม 5 ประเทศอาเซียน เศรษฐกิจของไทยและมาเลเซียจะมีการบริโภคภายในประเทศทรงตัว ขณะที่อินโดนีเซียจะมีการขยายตัวทั้งความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ ตรงกันข้ามกับฟิลิปปินส์ที่การเติบโตจะน้อยลงทั้ง 2 ตลาด ส่วนเวียดนามจะเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เมื่อมองรวมทั้ง 5 ประเทศ จะมีการเติบโตเฉลี่ยตลอดปี 6.1%<br> |
27/12/2550 14:43 น. |
คุณ สืบ มันจะไม่ใช่แค่ ลาวนะแต่จะมี เขมรกับพม่า เพิ่มเข้ามาด้วย <br>สำหรับเวียดนามผมว่าไม่นานนี้ได้เห็นแน่นอน สำหรับ cnc ที่<br>จะผลิตและส่งเข้ามาขาย โดยใช้มาตราฐานเวียดนามเอง จะเหมือนกับของJIS DIN ASME GB และอีกหลายๆประเทศ ทั้ง อินเดีย ศรีลังกา ฯลฯ ที่มีมาตราฐานของเขาเองแต่ไทยไม่มี (ขำจริงๆ) <br>โดยส่วนตัว สำหรับผมเฉยๆนะสำหรับ Testor และ Acceptor<br>ที่จะมาจาก ลาว เขมร เวียดนาม พม่า อย่างที่ผมพูดในงาน อบรม&สัมมนา ที่ผ่านมา ให้ ผู้เข้า สัมมนารู้น่ะละว่าจะต้องเจอ ทั้ง<br>Testor และ Acceptor จาก4ประเทศนี้แน่นอน ที่จะเข้ามาทำมาหากินในบ้านเรา ก็ได้แต่ปล่อยไปตามกรรมน่ะ คุณ สืบ เราก็ พยายามช่วยเต็มที่ในส่วนที่ เราทำได้ อย่างที่ผมเคยเล่าไปหลายครั้งและในกระทู้ที่ผ่านๆ มา เราทำได้แค่นี้จริงมะ<br> |
27/12/2550 22:11 น. |
ประเด็นที่เป็นห่วง อยู่ตรงนี้ครับ ขอลอกของ t1000 มาให้อ่าน ละกัน แล้วลองนึกตามนะ <br><br>"รัฐบาลไทยควรสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น การแพทย์ ไบโอเคมิคัล ไอที เพราะไทยคงไม่สามารถแข่งขันเรื่องแรงงานถูกกับบรรดาตลาดเกิดใหม่ได้ จึงควร หันมาเน้นธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานฝีมือมากกว่า หรือเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทในภูมิภาค และธุรกิจการตลาด " <br><br>"พร้อมกันนี้ประธานเจโทรระบุว่า หากไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างตลาดของไทยให้เป็นตลาดสำหรับกิจกรรมทางธุรกิจที่ต้องอาศัยแรงงานฝีมือระดับสูงได้ ญี่ปุ่นก็อาจจำเป็นต้อง มองประเทศอื่นเพื่อทำธุรกิจแบบนั้นแทน" <br><br>สิ่งที่ลองให้หลายท่านทบทวน คือ เราเสียเวลาไปกับการพัฒนาการศึกษา นานเท่าใดแล้ว <br><br>วิชาบางวิชา เช่น เรขาคณิตฯ ที่ทำให้เข้าใจ ลักษณะโครงสร้างทางวิศวกรรม แบบง่ายๆ เปลี่ยน ไปเป็นวิชาอื่น(แคลคูลัส) ที่ใช้คำนวณ และสูตร จำสูตรกันหัวผุ แถมมีสูตรลัด มาสอนกวดวิชา ที่นี้พอทำงาน หน้า site แค่แบ่ง วงกลมหกส่วน แปดส่วน พวกมึน (ไม่ใช่ทุกคนนะ) <br><br>หรือ วิชาบางประเภท ที่ต้องใช้ ความต่อเนื่อง ของระดับความยาก และซับซ้อน ซึ่งอาจเรียนมากกว่า 1 ปี ถูกแปรผสม ลดเหลือปีเดียว มั่วไปหมด <br><br>นี่ไม่รวมถึง วิชาสายเทคนิค ที่หายไปบางส่วน มิใช่หรือ เพราะท่าน ดร. ทั้งหลายบอกว่าไม่จำเป็น หรือ ว่าโดนยัดให้เอาออก และอื่นๆ อีกเยอะ <br><br>ทีนี้หันไปมองดิ กระทู้ก่อน เห็นมี คุยถามเรื่อง ไม่มีการต่อยอด ของการวิจัย ของเด็กด้านเทคนิค ที่ดีๆ <br>เพราะทำแล้ว หายไป ไม่เป็นเขิงการค้า แล้วคนที่เคยรับปาก ตอนนี้ เป็นไง โดนพวกขี้อิจฉา ส่งไปไหน <br><br>บอกว่าต้องพัฒนาทางการค้า แต่บ้านเรา ยังติด ความเป็นข้าราชการแบบศักดินาอยู่ (ทำไงดีล่ะ) บางกรณีเป็นเหมือนคมดาบ ที่พลิกได้บนปลายลิ้น สักแต่ว่าจะพูดให้เป็นทางใด <br>เช่น <br>คำว่า ตากลม ลองอ่านดูจะพบว่าอ่านได้สองแบบ <br><br>คุณ tong เรารู้ ว่าจริงๆ แล้ว เกิดจากอะไร แต่ ทำได้ แค่นี้แหละ ทำได้ เท่าที่ทำ ละกัน <br>ไม่มีเวที ให้เล่น สงสัย ต้องสร้างเวที เอง ซะมัง ลองดูปะ |
18/01/2551 21:07 น. |
เอาเลยครับ ตั้งเองเลย หนับหนุน |
18/01/2551 23:02 น. |
ตั้ง ชมรมฯลฯ ขึ้นมาแล้ว ตามที่ได้เห็น น่ะละ |
15/03/2552 10:03 น. |
พวกพันธมิตรไง ไม่ค่อยเคารพประชาธิปไตย ใช้แต่กำลัง ย้ายไปอยู่เกาหลีเหนือไป๊ |
30/06/2552 14:24 น. |
เบื่อการเมืองไทยมาก<br>ไอ้พวกนี้มันทะเลาะกันอยู่ได้หาแต่ประโยชน์ใส่ตัวเอง<br>ดูเวียดนามเค้าดิขนาดเป็นคอมมิวนิสนะ<br>รัฐบาลไหนก็ได้เข้ามาแล้วมีแผนพัฒนาประเทศให้มันดีและเร็วกว่าที่เป็นหน่อย<br>เนี่ยเห็นพี่มันซื้อโนเกียมาเอ็น70 สีดำอะ ของแท้นะ<br>แต่พลิกดู "MADE IN VIETNAM"<br>ทรุดเลยอะ<br>คืออยากบอกว่าแค้นใจนะดูสังคมในเมืองบ้านเรา<br>ทำแต่งานงิกๆๆคนตกงานแยะ รอแต่ต่างประเทศมาลงทุนในไทย<br>ผมอยากให้มีรัฐบาลใหม่ไฟแรงที่หัวคิดก้าวไกล<br>อยากโล๊ะ 2 ขั้วอำนาจในเมืองไทยที่เรารู้ๆกันอยู่ ไปซิมบับเว่จัง |