08/11/2550 13:30 น. |
อยากรู้ว่าในการเลือกซื้อเครื่อง cnc ซักเครื่อง ควรจะพิจารณา อะไรบ้างเช่น จะดูอย่างไงว่าแต่จะ ยี่ห้อ ว่าอยู่ใน class เดียวกันแล้ว เครื่อง กลึง กับ machine center วิธีการเหมือนกันไหม |
08/11/2550 14:10 น. |
คำถามนี้ คำถามเดียวมีหลายปัจจัย รายละเอียดเยอะ และเป็น สิ่งมีความสำคัญ แต่ก็อยู่ในลำดับกลางๆของเรื่องที่ได้เคยคุยกับคุณ สืบไว้<br>คงต้องนั่งคุยในในการจัด สัมณาจะเข้าใจและเห็นภาพครับ เพราะบาง<br>อย่างต้องเข้าใจ หลักการพื้นฐานก่อนครับ แต่เบื่องต้น นะครับ <br>เครื่อง กลึง machine center EMD เครื่องเจียร ไม่เหมือนกันครับ<br>มีค่าของใครของมัน แยกทั้ง แบบ เสาเดียว 2เสา ทั้ง veri และ hori ด้วยครับ รายละเอียดมันเยอะ น่ะครับ รองานสัมนาดีกว่าครับ<br> |
08/11/2550 14:12 น. |
จะมีการ จัดสัมนาเมื่อไหร่ครับ ที่ไหน |
08/11/2550 14:17 น. |
ยังไม่ได้ ระบุสถานที่ว่าที่ไหน ส่วนช่วงวันเคยคุยกันว่าน่าจะก่อนปีใหม<br>ผมเคยลงลองถามความคิดเห็นแล้วในกระทู้ 12575 ลองอ่าน คร่าวๆ<br>เบื้องต้นก่อนได้ครับ ส่วนวันที่เวลา จะระบุอีกทีเพราะยังไม่แน่ใจว่า<br>จะจำกัดจำนวนผู้เข้าสัมนาหรือเปล่า จะคุยตกลงกันอีกครั้งครับ |
08/11/2550 16:27 น. |
แนวคิดอย่างพอเพียง<br> 1 order คุณ มีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีมากเราก็ต้องเลียกเครื่องที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเราเรียกว่าว่าความเชื่อมันในเครื่องจักรนั้น รวามถึงความเร็วในการทำงานของเครื่อง ว่าสามารถผลิตงานที่มีคุณภาพส่งลูกค้าได้ จำนวนผลผลิตที่เครื่องจักรผลิตได้ /นาที ซึ่งจะเป็นตัวบอกได้เลยว่าเราจะซื้อเครื่องจักรและคืนทุน ได้เมื่อไร คุ้มค่าหรือไม่<br> 2 resolution งาน ก็คือความสามารถในการทำงานได้ <br> 3 วัสดุ งานที่เราจะเอาไปขึ้นชิ้นงานหรือว่าหลากหลาย<br> 4 ค่า service เมื่อเกิดปัญหา<br> 5 ราคาซื้อ และราคาขายเมื่อเลิกใช้<br> 6 ขนาดเครื่อง และขนาดชิ้นงานที่ต้องการ<br><br> ใน 6 ข้อนี้คือโจทย์หลัก ที่ต้องพิจารณาหลังจากนั้น ถ้าเราได้ เครื่องที่เข้า Case แล้วเราก็มาพิจารณา ในคุณสมบัติของเครื่องในรายละเอียดหัวข้อ/หัวข้อเลยว่าแต่ละยี่ห้อว่าใครโดดเด่นกว่าใครเช่น<br> 1 ลักษณะของเครื่องทางกล เช่นโครงเครื่อง ราง slide way ความละเอียด Ball Screw ชนิดลูกปืน ระบบ spindle ระบบการหล่อลื่น ความแข็งแรง อื่น ๆ ที่เกียวข้องกับทางกลมากมาย<br> 2 ตัวควบคุม เช่นฟังก์ชันการใช้งาน คุ้นเคย ไม่ซับซ้อน สวยงาม ใช้ง่าย รวดเร็ว ทนทาน ต่อการใช้งาน และ สารเคมี <br> 3 ระบบไฟฟ้าเช่น เช่นคุณภาพสาย ระบบป้องกันทางไฟฟ้า มาตรฐานการทนสารเคมีของ ท่อร้อยสาย และอุปกรณ์ <br> 4 คู่มือการซ่อมบำรุงทั้งทางกล ทางระบบไฟฟ้า ระบบของตัวควบคุม อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง<br> 5 มาตรฐานเครื่องจักร <br> 6 ความสามารถในการ over Spac ซึ่งในแต่ละเครื่องหรือแต่ละยี่ห้อจะเผื่อไม่เท่ากัน เช่น แรงบิดของ Servor Motor Spindle ,อุณภูมิการใช้งานของอุปกรณืต่าง ๆ และตัวเครื่องเอง ที่มี spac และสามารถนำมาเปรียบเทียบได้<br> 7 ราคาขายต่อ ถ้าเลิกใช้<br> 8 ถ้าคิดอะไรออกมากกว่านี้ ก็ลองเทียบกันดูของแต่ละเครื่องแต่ละยี่ห้อ<br><br> ข้อมูลนี้เป็นแนวคิดโดยทั่วไปของผมเอง ถ้าต้องการเครื่องสักตัวนึงมาใช้งาน |
09/11/2550 16:09 น. |
พักนี้ บอร์ด ครึกครื้นดีจัง |
09/11/2550 23:20 น. |
งานเริ่ม ว่าง แล้ว หรือ eigza หายไปพักนึงนะ |
12/11/2550 13:55 น. |
ก็เลือกดู ละกันเป็น แนวคิดส่วนตัวก็มีลงไว้แล้ว แต่ถ้าเป็น เกณฑ์มาตราฐานสากล ก็รองานสัมนา ครับผม |
14/11/2550 18:23 น. |
ขอนอกประเด็นหน่อยนะ มี 2 ตัวมาให้ช่วยเลือก<br>1. Kitamuura JigCenter-7 เป็นดับเบิ้ลคอลัมน์ขนาดย่อม แต่คอนโทรลเก่าหน่อย 6M มอเตอร์ตูดเหลือง มี ATC<br>2. OKK copy M/C โมด์มาใส่มอเตอร์ตูดแดง คอนโทรลใหม่กว่า 12M สภาพดีน่าใช้ แต่ไม่มี ATC ไม่มีกั้นขี้เหล็กกระเด็น<br><br>ทั้ง2ตัว ราคาเท่ากันเลย รายละเอียดอื่นๆก็พอๆกันเลย รักพี่เสียดายน้องครับ เอาตัวไหนดี |
16/11/2550 20:02 น. |
ขออนุญาติเอาคำตอบพี่ Petch มาด้วยครับ<br><br>แนวคิดอย่างพอเพียง<br>1 order คุณ มีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีมากเราก็ต้องเลียกเครื่องที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเราเรียกว่าว่าความเชื่อมันในเครื่องจักรนั้น รวามถึงความเร็วในการทำงานของเครื่อง ว่าสามารถผลิตงานที่มีคุณภาพส่งลูกค้าได้ จำนวนผลผลิตที่เครื่องจักรผลิตได้ /นาที ซึ่งจะเป็นตัวบอกได้เลยว่าเราจะซื้อเครื่องจักรและคืนทุน ได้เมื่อไร คุ้มค่าหรือไม่<br>2 resolution งาน ก็คือความสามารถในการทำงานได้ <br>3 วัสดุ งานที่เราจะเอาไปขึ้นชิ้นงานหรือว่าหลากหลาย<br>4 ค่า service เมื่อเกิดปัญหา<br>5 ราคาซื้อ และราคาขายเมื่อเลิกใช้<br>6 ขนาดเครื่อง และขนาดชิ้นงานที่ต้องการ<br><br>ใน 6 ข้อนี้คือโจทย์หลัก ที่ต้องพิจารณาหลังจากนั้น ถ้าเราได้ เครื่องที่เข้า Case แล้วเราก็มาพิจารณา ในคุณสมบัติของเครื่องในรายละเอียดหัวข้อ/หัวข้อเลยว่าแต่ละยี่ห้อว่าใครโดดเด่นกว่าใครเช่น<br>1 ลักษณะของเครื่องทางกล เช่นโครงเครื่อง ราง slide way ความละเอียด Ball Screw ชนิดลูกปืน ระบบ spindle ระบบการหล่อลื่น ความแข็งแรง อื่น ๆ ที่เกียวข้องกับทางกลมากมาย<br>2 ตัวควบคุม เช่นฟังก์ชันการใช้งาน คุ้นเคย ไม่ซับซ้อน สวยงาม ใช้ง่าย รวดเร็ว ทนทาน ต่อการใช้งาน และ สารเคมี <br>3 ระบบไฟฟ้าเช่น เช่นคุณภาพสาย ระบบป้องกันทางไฟฟ้า มาตรฐานการทนสารเคมีของ ท่อร้อยสาย และอุปกรณ์ <br>4 คู่มือการซ่อมบำรุงทั้งทางกล ทางระบบไฟฟ้า ระบบของตัวควบคุม อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง<br>5 มาตรฐานเครื่องจักร <br>6 ความสามารถในการ over Spac ซึ่งในแต่ละเครื่องหรือแต่ละยี่ห้อจะเผื่อไม่เท่ากัน เช่น แรงบิดของ Servor Motor Spindle ,อุณภูมิการใช้งานของอุปกรณืต่าง ๆ และตัวเครื่องเอง ที่มี spac และสามารถนำมาเปรียบเทียบได้<br>7 ราคาขายต่อ ถ้าเลิกใช้<br>8 ถ้าคิดอะไรออกมากกว่านี้ ก็ลองเทียบกันดูของแต่ละเครื่องแต่ละยี่ห้อ<br><br>ข้อมูลนี้เป็นแนวคิดโดยทั่วไปของผมเอง ถ้าต้องการเครื่องสักตัวนึงมาใช้งาน <br><br><br>ผมอ่านแล้วตรงใจมากเลยครับ แย่งที่พี่บอกกล่าวมาเจอเองทั้งหมดครับ <br>เอาด้านดูแลรักษาเครื่องก่อนครับ ผมมีเครื่อง CNC 4 ตัวครับ ดูแล+ซ่อมเองทั้งหมด ถ้าไม่ใช่สัญญานจาก Fanuc เราจะพยายามซ่อมเอง +ถามอาจารย์ที่สอนเครื่องเราหรือ เพื่อนๆในกลุ่ม CNC /ช่าง<br><br>เครื่องญี่ปุ่นใช้มา 8 ปี ไม่เคยเสียเลย <br>แต่เครื่องไต้หวัน เสียภายในปีแรก <br>และ คนที่จะมาช่วยคิด หรือ ทำ ก็หายากด้วยครับ + ค่าแรงก็ Ok <br>เลย เพราะฉนั้นใครที่จะซื้อรบกวนไตร่ตรองให้ดีนะครับ |
21/11/2550 14:13 น. |
มันจะคล้ายกับการซื้อ รถ อะครับ ระดับของรถ ยี่ห้อรถ ศูนย์บริการ แต่เครื่องจักรมันแตกต่างกว่าตรงที่ ต้องใช้ผลิตชิ้นงาน ว่าได้ค่าตรงตามที่โฆษณา หรือ ไม่ว่าผลิตแล้วได้ตามที่โฆษณาไว้มั้ย ถาต้องมานั่งแก้งาน ไม่คุ้มกันนะครับ กับเครื่องราคาถูกกว่านิดหน่อย |