ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
29 มิถุนายน 2553
ไทยรุ่งคาดรายได้ปีนี้ขยายตัว 40-50% ตามอุตฯ รถยนต์ที่ฟื้นตัว พร้อมเตรียมลงทุน 300-400 ล้านบาทขยายกำลังผลิต-สร้างโรงงานใหม่รองรับออเดอร์เข้า
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ (TRU) กล่าวว่า ในปีนี้ผลประกอบการของบริษัทจะกลับมาดีมากและคาดว่ารายได้จะเติบโต 40-50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.44 พันล้านบาท เช่นเดียวกับกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่ในด้านกำไรจะเชื่อว่าจะเติบโตได้ดีมากแบบก้าวกระโดด เพราะปีก่อนต้องพบกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัวอย่างหนัก และบริษัทก็ประสบภาวะขาดทุน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1 ปี 2553 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 23.08 ล้านบาท และในไตรมาส 2 ปี 2553 ยังมั่นใจว่ารายได้และกำไรจะดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก แม้ว่าบริษัทจะประสบปัญหาวันหยุดทางราชการจำนวนมากในเดือน เม.ย.และการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเดือน พ.ค.ทำให้บริษัทไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ ขณะที่ยังมีงานรออยู่อีก "กำไรปีนี้มันต้องโตกว่าปีที่แล้วอย่างก้าวกระโดดอยู่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราขาดทุน ปีนี้มันกลับไปดีเหมือนปี 2551 ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และเราคงโตได้อย่างน้อยเทียบเท่ากับอุตสาหกรรมที่โต 40-50%" นายสมพงษ์ กล่าว นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทยังรับรู้กำไรจาก บริษัท เดลต้า ไทยรุ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบาะรถยนต์ โดยมีลูกค้ารายใหญ่อย่างมาสด้า ที่บริษัทได้รับงานการผลิตให้กับรถยนต์รุ่นมาสด้า 2 ทั้งนี้ บริษัทจะรับรู้กำไรตามสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวที่ 30% จากปีก่อนที่บริษัทดังกล่าวขาดทุน แต่ปีนี้กลับมามีกำไรด้วย ยิ่งส่งผลต่อภาพรวมบริษัทให้ดีเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีขาดทุนสะสม ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่ากำไรในปีนี้จะสูงพอล้างขาดทุนสะสมได้หมดหรือไม่ แต่บริษัทจะพยายามเดินหน้าล้างขาดทุนสะสมต่อไป นายสมพงษ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าการย้ายฐานการผลิตของฟอร์ดมายังประเทศไทยส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศต่างได้รับอานิสงส์ และคาดว่าจะต้องมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มเข้ามา เพราะค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นก็ย้ายฐานการผลิตมายังเมืองไทยเกือบทั้งหมดแล้ว สำหรับ บริษัทไทยรุ่งได้เตรียมเงินลงทุนจำนวน 300-400 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและก่อสร้างโรงงานใหม่บนพื้นที่เดิมที่บริษัทมีอยู่ใน จ.ระยอง ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้สถาบันการเงิน ทั้งนี้ เพื่อรองรับงานใหม่ในอนาคตที่บริษัทสามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ JIG และแม่พิมพ์ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมที่จะรับงาน รวมทั้งการเตรียมพร้อมเพื่อเสนองานให้ค่ายฟอร์ดพิจารณา เพราะเดิมกลุ่มจีเอ็ม ก็เป็นลูกค้าของบริษัทอยู่แล้ว ดังนั้น บริษัทก็น่าจะได้รับความไว้วางใจจากค่ายฟอร์ดด้วย นอกจากนั้นลูกค้าของบริษัทยังมีกลุ่ม อีซูซุ, จีเอ็ม, ทาทา และโคมัตสุ ซึ่งคาดว่าฟอร์ดจะเริ่มว่าจ้างผู้ผลิตชิ้นส่วนในช่วง 6-8 เดือนข้างหน้า ด้านการเคลื่อนไหวราคาหุ้นไทยรุ่งฯ วานนี้ ปิดตลาด 4.76 บาท บวก 0.74 บาทหรือ 18.41% โดยระหว่างวันขึ้นไปบวก 26.87% มาอยู่ที่ 5.10 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มยานยนต์ทั้งกลุ่ม ทั้งอาปิโก ไฮเทค ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า และสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี่ โดยราคาหุ้นปรับขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากตลาดประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวก ต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มยานยนต์ โดยเฉพาะหุ้นที่มี บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดหรือ AAT (บริษัทร่วมทุนของฟอร์ดและมาสด้า) เป็นลูกค้าหลัก เช่น สมบูรณ์ฯ ไทยสแตนเลย์ และอาปิโก ไฮเทค ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ มีรายได้จากกลุ่ม AAT ประมาณ 5% ของรายได้รวม โดยประเมินว่า ผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มยานยนต์มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2553 ตามภาวะอุตสาหกรรม รวมทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต จากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ อาทิ ฟอร์ด ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้นสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ ราคาเหมาะสม 22.90 บาท (หลังเพิ่มทุน) และไทยสแตนเลย์ ราคาเหมาะสม 184.00 บาท |
========================================================
================= ยูทุปของ 9engineer ,com ===================
คลิปที่น่าสนใจจัดทำโดย 9engineer.com ภายใต้ชื่อช่องTechnology talk Channel
**** นายเอ็นจิเนียร์ขอสงวนสิทธิ์รับรองความถูกต้อง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารข้อมูล