การตั้งค่าชุดควบคุมคาปาซิเตอร์
แบบเชิงเส้น (Linear) และแบบเชิงเส้น (Circular) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2. แบบวนรอบ (Circular) การตั้งค่าแบบนี้ชุดควบคุมคาปาซิตอร์ไม่จำเป็นต้องเริ่มสั่งงานในตำแหน่งที่ 1 เสมอไป ตัวอย่างเช่น อาจเริ่มทำงาน จากตำแหน่งที่ 5 ก่อน ถ้า PF ยังไม่พอที่สั่งต่อตำแหน่งถัดมาคือ ตำแหน่งที่ 6,1,2 ไปเรื่อยๆ จนมีค่า PF ดีพอ ในกรณี ที่ค่า PF เกินความต้องการจะสั่งปลดคาปาซิเตอร์ตำแหน่งที่เริ่มทำงานก่อนหรือตำแหน่งที่ทำงานมาแล้วนานที่สุดก่อน หรือตำแหน่งที่ทำงานมาแล้วนานที่สุดก่อนคือ ตำแหน่งที่ 5 ถ้าค่า PF ยังสูงเกินอยู่ก็จะปลดตำแหน่งถัดมาคือ 6,1,2 วน รอบกันอย่างนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในแง่ของการปฏิบัติงานและซ่อมบำรุงข้อดีของการตั้งค่าลำดับการทำงานแบบวนรอบ (Circular) จะดีกว่าแบบ เชิงเส้น (Linear) คือทำให้ภาวะการทำงานของคาปาซิเตอร์ ทุกตำแหน่งกระจายอย่างทั่วถึง โดยไม่จำกัดอยู่ที่ ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยเฉพาะทำให้อายุการใช้งานเฉลี่ยของอุปกรณ์ทุกๆตัวสูงขึ้น และยังสามารถช่วยลด เวลาในการตัดต่อคาปาซิเตอร์ เนื่องจากคาปาซิเตอร์ตัวที่เพิ่งถูกปลดออกจะไมาสามารถต่อเข้ามาได้ทันทีเพราะ ต้องรอการคายประจุก่อน (Discharge) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เอกสารอ้างอิง วารสาร คุณภาพไฟฟ้า Vol 9 / Jan - March 2002 ; ABB LIMITED (ขอขอบคุณ ชาวสมาชิก 9engineer คุณมาโนชน์ ที่กรุณาส่งข้อมูลมาเพื่อเป็นความรู้เผยแพร่) |
========================================================