โดย: ภาคีวิศวกรรมกรไขว่คว้า ประเทศไทย
การพัฒนาคนในระดับองค์กร หรือระดับประทศ ส่วนใหญ่เราจะมองถึงระบบการศึกษา และมักจะพูดว่า ระบบการศึกษาของเราไม่ดี ผมไม่ปฎิเสธเสียทั้งหมด อาจจะอยู่ที่คนด้วย
วันนี้ทำงานมา 17 ปี พบว่ายิ่งทำงานยิ่งต้องอ่าน และอ่านมากขึ้นด้วย และต้องศึกษามากขึ้น และต้องอ่านหลายแขนง หลายวิชาด้วย เพื่อจะได้นำข้อมูลมาบูรณาการณ์ (Integrated) เป็นการศึกษาที่ไม่มีอาจารย์สอนเลย ผมคิดว่าคนทั่วไปมักติดยึดอยู่กับสถานศึกษาในฐานะแหล่งความรู้ เวลาลูกน้อง หรือเด็กจบใหม่ มีปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมืออุปกรณ์ มักจะถามวิธีใช้กับผม แทนที่จะเปิดคู่มืออ่านเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องฝึก เพราะเมื่อถามแล้วได้คำตอบง่ายๆ ก็จะไม่อยากดิ้นรนเรียนรู้ด้วยตนเอง ผมพบว่าสิ่งใดที่เรียนรู้ด้วยตัวเองจะจำได้แม่ยำกว่าเมื่อมีคนสอน เหมือนสมัยก่อนกว่าจะรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษต้องเปิดดิกชั่นนารี่ พร้อมทั้งท่องไปด้วย กว่าจะหาเจอก็จำคำๆนั้นได้พอดี เด็กสมัยใหม่ คีย์ในคอมพิวเตอร์ได้คำแปล แต่จำไม่เคยได้ เพราะมันได้อะไรมาง่ายๆ ไม่ต้องใช้สมอง ถ้าไม่รู้ก็ถามคอมพิวเตอร์ ทำให้สมองไม่ถูกฝึกฝน จึงไม่เคยจำ ภาษาอังกฤษก็เลยแย่ เพราะ โรงเรียนก็สอนไม่ค่อยดีมัวแต่บ้าเรื่องแกรมม่า เพราะออกข้อสอบง่าย ทำให้เด็กจบใหม่จึงไม่ค่อยจะเข้าใจโลกภายนอก
ในชีวิตการทำงานของผม ผมได้เรียนรู้หลายอย่าง วิธีการเรียนรู้มีหลายวิธี ไม่ว่าเขาจะตั้งใจสอนหรือไม่ หลายครั้งที่ผมรู้สึกหงุดหงิด เมื่อได้ยินลูกน้องบ่นทำนองว่า บริษัทไม่เคยสอนเขา แล้วจะให้เขาทำงานเป็นได้อย่างไร อ้างไปถึงสถาบันการศึกษาไม่เคยสอน จะให้เขารู้ได้อย่างไร เฮ้อ!!!
ผมว่าความคิดแบบนี้สะท้อนถึงวัฒนธรรม บางอย่างของไทยเราที่ต้องสอนก่อนจึงจะรู้ได้ จึงจะทำได้ ไม่ชอบเรียนรู้ด้วยตนเอง ชอบให้มีคนสอน เพราะ เร็ว ง่าย ดี สะดวก เหมือนเพื่อนผมเคยพูดในวงสังสรรค์ “เด็กรุ่นใหม่อย่าว่าแต่จะเอาความรู้ยัดใส่ปากให้เลย อ้าปากกินความรู้ยังขี้เกียจเลยมีหรือจะปรุงอาหารแล้วตักใส่ปากเอง สงสัยต้องเอามีดผ่าเปิดฝากะโหลก แล้วตักความรู้ยัดใส่เข้าไปในสมองถึงจะรับ”ฟังแล้วเห็นภาพ ความไม่เอาไหนของเด็กไทยรุ่นใหม่ แล้วประเทศชาติจะเป็นเช่นไรในอนาคต
มนุษย์แตกต่างกันที่ความเร็วในการเรียนรู้ ทุกคนมีโอกาสในการเรียนรู้เหมือนกัน 24 ชม.ต่อวัน แต่ใครจะมีอัตราการเรียนรู้ที่เร็วกว่า และสามารถกรองเอาความรู้ที่สามารถนำมาใช้ได้ดีกว่ากัน นั่นคือคุณค่าของคน
อะไรคือแรงจูงใจให้คนพัฒนา อย่างแรกคือ นิสัยใฝ่เรียนรู้ และความทะเยอทะยาน อีกอย่างคือถูกบังคับ สงสัยคนไทย น่าจะเหมาะกับ การถูกบังคับ ถูกวัด และถูกตรวจสอบ และถูกประเมินผลการเรียนรู้
คนในเมืองไทยมักมีค่านิยมให้เรียนจบก่อนแล้วจึงจะเข้าทำงาน ไม่เคยคิดเลยว่าทำไม่ไม่ให้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ความคิดนี้ต้องเปลี่ยนทัศนะคติ ให้ครอบครัว หรือผู้ปกครองมี่ส่วนร่วม หรือสถาบันการศึกษาเข้ามาอบรมคนที่ทำงานแล้ว อาจารย์จะได้รู้ว่าโลกธุรกิจเป็นอย่างไร รวมทั้งได้เรียนรู้ด้วยตนเอง อาจารย์ควรจะถูกสอนบ้าง ไม่ใช่อาจารย์ยังไม่รู้เลยว่าโลกเป็นอย่างไร หมกมุนอยู่แต่กับตำราอย่างเดียว แขนงวิชาเดียว ให้มีการเรียนรู้หลากหลายแขนง และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน จึงจะนับว่าเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งระบบ ของประเทศ
|
========================================================