เขียนโดย: Nong Fern Daddy
สืบเนื่องจากกระทู้ "ข้อดีของการทำงานแบบเป็นกะนอกชายฝั่งทะเล"
มีเพื่อนพี่น้องสนใจหลังไมค์มาถามไถ่กันเยอะ โดยมากจะเกี่ยวกับอาชีพการงานชื่อเฉพาะแปลกๆ(สำหรับคนนอกวงการ) บ้างก็มีความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับวงการอาชีพนี้ รวมไปถึงบริษัทต่างๆในวงการที่ตอนนี้ขาดคนอย่างหนัก ทำให้ขาดจรรยาบรรณในการรับคนโดยไปอ้างอิงว่าเป็นบริษัทโน้นบริษัทนี้ที่ใหญ่ๆ แต่ความจริงเป็นเพียงผู้รับเหมาหลัก ผู้รับเหมาช่วง หรือ แม้กระทั่งผู้ขายสินค้าต่อเนื่อง (Suppliers) ผมจึงคิดว่า ว่างๆจะเขียนถึงเรื่องราวใน "อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม" โดยรวมทั้งแบบนอกชายฝั่งและบนฝั่ง ซึ่งต่อไปนี้ผมจะเรียกย่อๆว่า "วงการ" ก็แล้วกันครับ ผมจะพยายามเล่าอย่างภาษาบ้านๆแต่จะวงเล็บศัพท์เฉพาะเอาไว้ อาจจะละเลยประเด็นรายระเอียดบ้างที่อาจจะยังไม่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่กำลังคุยให้ฟัง ถ้าสงสัยอะไรเป็นการเฉพาะก็อีเมล์มาถามไถ่กันได้นะครับ คิดซะว่ามีเพื่อนฝูงตัวกลมๆมานั่งเล่าให้ฟัง ผมจะเขียนเป็นตอนๆรายว่างรายสะดวก และจะไม่ต่อในกระทู้เดียวกัน จะขึ้นกระทู้ใหม่ และจะเก็บสำเนาไว้ที่ blog ของผม https://bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy ไม่ต้องเป็นสมาชิกก็คลิ๊กได้นะครับ มีเรื่องราวอื่นๆที่น่ารู้เยอะเลย เช่น อีกกี่ปีน้ำมันจะหมดโลก ประเทศไทยมีน้ำมันไหม เป็นต้น อีกทั้งมีหนังสือดีๆแจกฟรีด้วย |
ก่อนจะลงไปคุยถึงตัวงานและอาชีพชื่อแปลกๆ คงต้องวาดภาพกว้างๆให้เห็นก่อนว่า ส่วนประกอบของวงการนี้มันมีอะไรบ้าง ตำราหรือผู้รู้หลายท่านอาจจะแบ่งประเภทไม่เหมือนผมนะครับ เอาว่าผมจะแบ่งอย่างผู้ไม่รู้ แบ่งแบบบ้านๆ ก็แล้วกันว่ามันมีสัก 4 กลุ่มใหญ่เห็นจะได้
1. บริษัทน้ำมัน (Oil company หรือ E&P company)
2. บริษัทรับเหมาหลัก (Rig company)
3. บริษัทให้บริการเฉพาะ (Services company)
4. บริษัทขาย หรือ ให้บริการต่อเนื่อง (Good or services supplier)
เรามาไล่กันไปทีล่ะส่วนเลยนะ ผมจะพยายามเปรียบเทียบกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพราะมันใกล้ตัวดี ทุกคนรู้จักคุ้นเคย
1. บริษัทน้ำมัน (Oil company หรือ E&P company)
กลุ่มนี้พูดง่ายๆก็คือบริษัทเจ้าของบ่อน้ำมันนั่นแหละครับ หรือเปรียบเหมือนเจ้าของบ้านที่กำลังจะสร้างบ้าน บริษัทฯจะไปเข้าร่วมประมูลพื้นที่สัมปทานมาจากเจ้าของสัมปทานซึ่งโดยมากก็คือประเทศต่างๆ โดยจ่ายผผลตอบแทนให้ตามสัญญาสัมประทานซึ่งมีหลายแบบแตกต่างกันไป ผมจะไม่ลงรายละเอียดในที่นี้ บริษัทฯ อาจจะเข้าไปประมูลเดี่ยวๆแบบข้ามาคนดียว หรือ จับมือกันหุ้นกับบริษัทร่วมทุนอื่นๆ ที่อาจจะเป็นบริษัทน้ำมันด้วยกัน หรือ ไม่ใช่บริษัทน้ำมันก็ได้ เช่นพวกบริษัทนายทุนต่างๆที่ต้องการกระจายการลงทุน ค่าใช้จ่ายก็หารกันตามสัดส่วนหุ้น ขายน้ำมันได้เท่าไรก็แบ่งกันตามสัดส่วนหุ้นเช่นกัน ได้ข้อมูลทางธรณีมาก็แบ่งกัน ดังนั้น เป็นไปได้ว่าบริษัทฯ ก็อาจจะเป็นทั้งผู้ร่วมทุน และเป็นคู่แข่งประมูลในสัมประทานแปลงอื่นๆก็ได้ วงการนี้ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
เอาล่ะ พอประมูลกันมาได้แล้ว โดยปกติบริษัทลงขันมากที่สุดก็จะเป็นคนรับผิดชอบการขุดหรือที่เรียกอีกอย่างว่า Operator ส่วนบริษัทหุ้นส่วนที่เหลือเราก็เรียกว่า partner ตรงนี้ระวังให้ดีๆ ตลาดกำลังร้อน ชอบอ้างกันนักว่าเป็น operator จริงแค่เป็น partner ต้องดูดีๆเวลาไปสมัครงาน แต่ว่าบริษัทหนึ่งๆอาจจะเป็น operator หรือ partner ในขณะเดียวกันได้ ขึ้นอยู่กับ แปลงสัมประทาน มีน้อยกรณีที่ผู้ร่วมทุนสัดส่วนรองลงมาเป็น operator ทั้งนี้ขึ้นกับฉันทามติของผู้ถือหุ้น เช่นในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรองมีประสบการณ์ตรงในพื้นที่ใกล้เคียงแปลงสัมประทานมาก่อน แต่ไม่ยอมลงทุนเป็นตัวเงินเยอะ ประมาณว่า ฉันจะลงทุนประสบการณ์(ทำก๋วยเตี๋ยวอร่อย)นะย่ะ ถ้าเธอเชื่อมือฉันเธอเอาเงินมาลง(เปิดร้านให้ฉัน) ฉันจะลงหุ้นลมหรือลงขันนิดเดียว ถ้าเจ๊งขึ้นมา ฉันเสียชื่อ แต่เธอเสียเงิน ฮ่าๆ
บริษัทเหล่านี้โดยมากจะมีทรัพยากรบุคคลหลักเป็นของตัวเอง เช่น นักธรณี (ขุดตรงไหนน่าจะเจอฟ่ะ) นักธรณีฟิสิกส์ (ขุดไปแล้ว มีปิโตรเลียมหรือเปล่าน่ะ) วิศวกรแหล่งปิโตรเลียม (มีแล้วจะผลิตอย่างไรดีหว่า) เป็นต้น เสมือน บริษัทสายการบินอย่างน้อยก็ต้องมีกัปตัน แอร์ และ ช่างเครื่องเป็นของตัวเอง ส่วนอื่นอาจจะมีเป็นของตนเองหรือ จ้างผู้รับเหมาช่วงก็ได้ บางบริษัทก็ใหญ่มาก มีครบวงจรเลย มีทั้งวิศวกรขุดเจาะ วิศวกรผลิต กัปตันเรือ ลากยาวไปยันมี แผนก หรือ บริษัทลูกประเภทโลจิสติก หรือเดินเรือน้ำมัน เป็นของตนเอง คือตั้งมารับงานบริษัทแม่โดยเฉพาะ ข้อดีของบริษัทกลุ่มนี้คือ มีระบบระเบียบชัดเจน มีการพัฒนาบุคลากรเป็นเรื่องเป็นราว มีขั้นบันไดชัดเจนแน่นอนในองค์กรให้ไต่เต้า
คราวนี้ตรงข้ามสุดโต่งกับแบบแรกที่มีครบเครื่องไปหมด ก็จะมีบริษัทประเภท ตูมีตังค์หิ้วกระเป๋ามาใบเดียว แต่เห็นว่าแปลงสัมปทานนี้มีน้ำมันแน่ๆ ก็อยากจะมาสำรวจและผลิต ก็เอาเงินมาจ้างๆแล้วก็จ้าง ซื้อตัวพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญกันอุตลุด ตั้งเป็นบริษัท แล้วก็ทำการสำรวจและผลิต ดังนั้นน้องๆที่จะหางานทำในบริษัทกลุ่มนี้พึงสำรวจที่มาที่ไปให้ดีนะครับ
ตัวอย่างที่เห็นชัดไม่นานเกินลืมในบ้านเราก็เจ้าพ่อห้างดังที่ลอนดอนไงครับ วันดีคืนดีอยากลงทุนในธุรกิจนี้เลยตั้งบริษัทขึ้นมา ชื่อเหมือนห้างตัวเองเลย ผมได้ยินตอนแรกนึกว่าจะมาลอยเรือขายตุ๊กตาหมีในอ่าวไทย อิอิ อ้อ ตอนนี้ปิด(ขายต่อ)ไปเรียบโร้ย น้องๆในเรือน้องหมีนั้นแตกกันฮือเหมือนผึ้งแตกรัง
แต่ข้อดีของบริษัทแบบนี้สำหรับคนที่มีฝีมือคือ เขาจะจ่ายไม่อั้น สองเท่าของที่เดิมเป็นอย่างน้อย ไม่มีระบบฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรอะไรทั้งนั้น plug and play ครับ น้องๆบางคนได้รับข้อเสนอกัน สามถึงสี่เท่า ก็เคยได้ยินมา และ เชื่อซิครับ เด็กๆอายุไม่ถึง 35 ดี รายได้เดือนล่ะ 3 แสน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอู้ฮู้ แต่ประการใด บริษัทพวกนี้มีมาเรื่อยๆ มีมาแล้วก็ไป ....
บริษัทฯกลุ่มนี้แบ่งออกได้เป็นสองพวกใหญ่ๆ เวลาหางานก็ดูให้ดีๆนะครับ ข้อดีข้อด้อยก็แตกต่างกันอย่างที่ทราบๆดีอยู่แล้ว ยังไงก็หลังไมค์ หรือ อีเมล์ก็แล้วกันถ้าอยากรู้ ขืนเอามาแฉที่นี่ก็ได้ไปรับบริจาคโอเลี้ยง ข้าวผัด จากเพื่อนพี่น้องกันพอดี
1. บริษัทเอกชน อะนะ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ตั้งมาเพื่อแสวงหากำไรสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น อาจจะมหาชน หรือ ไม่ก็ได้ เช่น เชฟรอน บีพี เอสโซ่ เชลล์ เฮส รวมถึงบริษัทขนาดเล็กอีกมากมาย ไปดูในเว็บไซด์ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (กูเกิลเลยครับ) ได้ว่าใครเป็นใครทำอะไรอยู่ที่ไหนในประเทศเรา
2. บริษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Company) ชื่อก็บอกอีกว่าชาติใครชาติมัน ตั้งขึ้นมาเพื่อลงทุนหากำไรเข้ารัฐและผู้ถือหุ้น(ถ้าเป็นบริษัทมหาชนด้วย) และ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องดูแลผลประโยชน์ของประเทศ นี่ว่ากันแบบอุดมคตินะ แต่ความจริง ปกป้องดูแลผลประโยชน์ใครหว่า (ฮิฮิ เฉียดคุกอีกแล้ว) โดยมีรัฐบาลประเทศนั้นๆให้การสนับสนุน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ของเราก่อนเลยก็ ปตท.สผ. ปิโตรนาสของมาเลเซีย MOGE (Myanmar Oil and Gas Enterprise) ของพม่า ONGC (Oil and Natural Gas Commission) ของอินเดีย เป็นต้น เกือบทุกประเทศมีบริษัทน้ำมันแห่งชาติเป็นของตัวเอง ยกเว้นที่ผมไม่ทราบว่ามีคืออเมริกา หรือว่ามี ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
โอเค ... วันนี้จบตอนแค่นี้ก่อนนะครับ ว่างวันหลังจะมาโพสต์ใหม่ เกี่ยวกับบริษัทกลุ่มผู้รับเหมาหลัก หรือ Rig company มีอะไรที่น่าสนใจและน่าพิจารณาไปทำงานด้วยอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะครับ เช่นโอกาสได้ไปทำงานต่างประเทศจะสูง เพราะอะไรนะหรือครับ โปรดติดตามตอนต่อไป (อิอิ ยั่วให้อยากแล้วฝากไว้ก่อน)
ถ้ากระทู้โดนลบเพราะเก่าไป ก็ไปตามอ่านสำเนาได้นะครับที่ https://bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy มีหนังสือดีๆฟรีแจกด้วย ดูรายละเอียดใน Blog ครับผม
บ๊ายบาย
========================================================