ปวช. เงินเดือน 2 หมื่น!
โดย : Admin


20 ยักษ์ธุรกิจไทย-ต่างชาติ จับมือ 12 สถาบันการศึกษา องค์กรวิชาชีพลงขัน ‘สัตหีบโมเดล’ ยกระดับอาชีวะ สร้างงาน 3 จังหวัดอีอีซี ให้ทุนเรียนฟรี มีเบี้ยเลี้ยง การันตีจบแล้วมีงานทำ เงินเดือนขั้นต่ำ 2 หมื่นบาท ตั้งเป้าล็อตแรก 6 พันคน


การสร้างบุคลากรด้านแรงงานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ให้ตรงกับความต้องการของตลาดถือเป็นโครงการสำคัญสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้มีการจัดทำโครงการพัฒนายกระดับอาชีวะในพื้นที่ โดยสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกรศ. ได้เชิญผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง จำนวน 12 สถาบัน มาประชุม เพื่อเตรียมการในการสร้างบุคลากรด้านแรงงานในพื้นที่และให้นักศึกษาที่จบออกไปมีงานทำและมีรายได้ที่สูง


สำหรับโมเดลที่จะนำมาใช้ในการพัฒนายกระดับอาชีวะอีอีซี เรียกว่า ‘สัตหีบโมเดล’ เป็นการร่วมมือกับเอกชนโดยตรง เริ่มต้นตั้งแต่รับนักศึกษา ทำหลักสูตรร่วมกัน ฝึกอบรม โดยบริษัทจะจ่ายเงินให้นักศึกษาและนำนักศึกษาไปฝึกงานในพื้นที่สถานประกอบการ โดยมีการจ่ายค่าแรงให้ตามค่าแรงขั้นต่ำ จากนั้นจะรับเข้าทำงานในสถานประกอบการ เชื่อว่า ถ้ามีความร่วมมือแบบนี้ก็จะได้ทำงานเป็นปึกแผ่นเดียวกัน ไม่ต้องแข่งกัน ก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการศึกษาของประเทศ ซึ่งตอนนี้มีเอกชนเข้ามาสนใจร่วมโครงการจำนวนมาก เพราะเงื่อนไขในการขอรับการสนับสนุนการลงทุนในอีอีซี หนึ่งในนั้น คือ การฝึกอบรมสร้างคนให้สถาบันการศึกษาในพื้นที่
 

การดำเนินโครงการ ‘สัตหีบโมเดล’ ในปีแรกจะเป็นแผนนำร่องในสถาบันอาชีวะ 12 แห่ง ที่ สกรศ. สอบถามวิทยาลัยอาชีวะว่า ต้องการพัฒนาคนทางด้านใน จะผลิตบุคลากรได้กี่คน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ คาดว่าจะผลิตนักศึกษาระดับ ปวช. ได้ปีละประมาณ 6,000 คน ส่วนแผนต่อไปเป็นระยะ 3 ปี ที่จะประเมินผลจาก 12 สถาบันนำร่อง ขยายผลไปยังวิทยาลัยอาชีวะอื่น


“แรงจูงใจที่ทำให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนการผลิตกำลังคนอีอีซี คือ ระหว่างที่นักศึกษากำลังเรียน เอกชนจะมีค่าเบี้ยเลี้ยงให้เดือนละประมาณ 4,000-5,000 บาท ระหว่างการฝึกงานจะจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้เหมือนกับแรงงานทั่วไป เมื่อเรียนจบแล้วการันตีว่า มีงานทำ 100% โดยคาดว่า รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งกระบวนการเรียนแบบนี้ทำให้เขาดูแลตัวเองได้ตั้งแต่ต้น” นายคณิศ กล่าว

 

20 ยักษ์ธุรกิจลงขัน
ด้าน นายวัชรินทร์ ศิริพานิช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตกำลังคน สกรศ. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 20 บริษัท แสดงความจำนงสนใจให้การสนับสนุนการพัฒนากำลังคนในอีอีซีตามรูปแบบสัตหีบโมเดล ประกอบด้วย บริษัท สยามมิชลิน จำกัด, บริษัท เดนโซ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท คอนติเนนตัลบรรจุภัณฑ์ (ไทยแลนด์), บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟค เจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ท้อปเทร็นด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ที บี เคเค (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ยูนิคซี โปรดักส์ จำกัด และโรงแรมแอมบาสเดอร์จอมเทียน


นอกจากนี้ ยังมี KREMS UNIVERSITY ประเทศออสเตรีย, FRONIUS ประเทศออสเตรีย, TECHNICAL COLLAGE ประเทศอินโดนีเซีย, บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน), บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน), บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท วัชรมารีน จำกัด, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ Airport Rail Link, บริษัท เออแรนท์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)


“ตอนนี้มีมากกว่า 20 บริษัท ที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาคนในอีอีซี ล่าสุด มีบริษัทรถจักรยานยนต์ระดับโลก อย่าง ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จากประเทศอังกฤษ, บริษัท ดูคาติ มอเตอร์ โฮลดิ้ง จากประเทศอิตาลี และบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ฯ ก็สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งบริษัทที่ให้การสนับสนุนไม่ได้กำหนดว่าจะลงขันเท่าไร แต่เขาจะให้สวัสดิการกับนักเรียนนักศึกษาที่เรียนและอบรมในโครงการ เช่น จ่ายเป็นทุนการศึกษา เบี้ยเลี้ยง ค่ารถ ค่าที่พัก ค่าเสื้อผ้าฯ” นายวัชรินทร์ กล่าว


นายวัชรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องสร้างนักศึกษาอาชีวะแล้ว สกรศ. ยังมีแนวทางขยายผลสร้างคนที่ตกงาน หรือ ยังไม่มีงานทำ ให้มีงานทำ นำมาอบรมหลักสูตรระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อป้อนสู่ตลาดแรงงานให้ตอบสนองตำแหน่งงานในพื้นที่อีอีซี ที่ต้องการแรงงานจำนวนมากทางด้านวิชาชีพเฉพาะทางประมาณ 1 แสนอัตรา ขณะนี้มีการเริ่มดำเนินการผลิตได้ประมาณ 1,000 คน ในสาขาที่ต้องการก่อน ปีต่อไปจะขยายสาขาและจำนวน นักศึกษาก็จะมีมากขึ้น



เอกชนแนะเพิ่ม ปวส.
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้าง ผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า หลักสูตรอาชีวศึกษาปัจจุบันยังไม่ตรงกับความต้องการของนายจ้างที่ลงทุนในอีอีซี โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรม New S-Curve ที่ต้องการทักษะเฉพาะด้าน และหลักสูตรที่พัฒนาแรงงานขึ้นมา ก็ต้องปรับให้ตรงกับความต้องการของนายจ้าง เพราะที่ผ่านมา เวลาไปชักจูงการลงทุนต่างประเทศ จะเจอคำถามเรื่องแรงงานอาชีวศึกษาไม่เพียงพอ


การพัฒนาแรงงานอาชีวศึกษาป้อนอีอีซีในระดับ ปวช. อาจจะไม่เพียงพอ เพราะเป็นความรู้เบื้องต้นและหลายอุตสาหกรรมต้องการใช้แรงงานที่มีทักษะมากขึ้น อาจจะต้องขยายจำนวนแรงงานที่จะพัฒนาในระดับ ปวส. มากขึ้น ซึ่งแรงงานเฉพาะสาขาที่ใช้ทักษะสูง อาจใช้ระบบนี้ให้เรียนถึงปริญญาตรี รวมทั้งควรมีการพัฒนาองค์ความรู้ของอาจารย์ในสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการด้วย ถึงแม้ว่านักศึกษากลุ่มนี้จะเข้าไปฝึกงานในสถานประกอบการ แต่อาจารย์ยังคงมีบทบาทหลักในการเรียนการสอน


 

Cr:หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22-24 ก.พ. 2561 หน้า 01-02

เนื้อหาโดย: 9engineer.com (https://9engineer.com/)