จากกรณีที่ไทยต้องเผชิญปัญหาใหญ่ จากการซ่อมแท่นขุดเจาะของพม่า และท่อส่งก๊าซไทย-มาเลย์เสียหาย ทำก๊าซหายไปจากระบบกว่า 1.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุต
จาก กรณีที่ไทยต้องเผชิญปัญหาใหญ่ จากการซ่อมแท่นขุดเจาะของพม่า และท่อส่งก๊าซไทย-มาเลย์เสียหาย ทำก๊าซหายไปจากระบบกว่า 1.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุต
โดยรัฐมนตรีพลังงาน กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ว่าในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ นับแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป ประเทศไทยอาจพบกับวิกฤติด้านพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซียได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุการทิ้งสมอ เรือ เป็นผลให้ก๊าซหายไปจากระบบ 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
อีกทั้ง ทางพม่าได้แจ้งหยุดส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งยาดานาและเยตากุน ระหว่างวันที่ 4-12 เม.ย.ด้วย เนื่องจากต้องหยุดซ่อมบำรุง เพราะแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติยานาดามีปัญหาทรุดตัว
จึงต้องเร่งซ่อมแซมรากฐานก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม จำเป็นต้องปิดระบบส่งก๊าซทั้งหมด และหยุดส่งมาให้กับประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ก๊าซหายไปจากระบบประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
“การที่ ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าหายจากระบบ จึงได้เตรียมแผนรับมือโดยนำโรงไฟฟ้าที่ปิดใช้แล้ว กลับมาใช้ผลิตเพื่อรองรับชั่วคราว แต่คิดว่าคงไม่เพียงพอ ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน ขอความร่วมมือจากภาคประชาชน หน่วยงานให้ประหยัดการใช้พลังงานในช่วงดังกล่าว เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไปต่อได้”
ข้อมูลโดย : www.talkystory.com