โดย : จุฑารัตน์ ทิพย์นำภา
     

 สวทช.เดินเครื่องพัฒนาไบโอดีเซลเต็มสูบ
       สวทช.เดินเครื่องวิจัยไบโอดีเซลครบวงจร หลังบริษัทน้ำมันสัญชาติไทยส่งสัญญาณ รับซื้อวัตถุดิบผลปาล์มสด สร้างความมั่นใจให้เกษตรกร

  

รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สวทช. ได้มีความร่วมมือกับบริษัทเอกชน 2 แห่งได้แก่บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในโครงการพัฒนาเครื่องหีบน้ำมันปาล์มขนาดเล็กระดับชุมชน และบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ในเครือบางจาก ที่มีความต้องการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จากโครงการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานทดแทนของ สวทช. ก่อนหน้านี้ สวทช. โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ได้ลงพื้นที่ประสบปัญหาดินเปรี้ยว ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อศึกษาวิจัยด้านพลังงานทดแทนต้นแบบจากปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบหลักเพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล โดยจัดตั้งศูนย์ผลิตไบโอดีเซลล์ครบวงจรเฉลิมพระเกียรติฯ ทดลองปลูกและผลิตน้ำมันปาล์มดิบรองรับความต้องการเชื้อเพลิงจากไบโอดีเซลโดยรวมของประเทศ และเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

โครงการดังกล่าวเริ่มเห็นผล โดยมีโครงการวิจัยย่อยรวม 11 โครงการ อาทิเช่น การวิจัยปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ปาล์ม ให้ได้สายพันธ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง ซึ่งจากการวิจัยทำให้ได้สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิต 4.5 ตันต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ปาล์มที่ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ของไทย อีกทั้งยังต้านทางต่อโรคแมลง
 

 นอกจากนี้ผลจากงานวิจัยยังทำให้ได้เครื่องหีบน้ำมันจากผลปาล์มสดขนาดเล็กระดับชุมชน ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิต การใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของต้นปาล์ม รวมถึงพัฒนางานวิจัยด้านเซลล์แสงอาทิตย์ ร่วมถึงขยายโรงงานขนาดเล็กสำหรับชุมชนด้วย
 

 ด้านดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางปิโตรเลียม จำกัด กล่าวเสริมว่า บางจากพร้อมที่จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มในพื้นที่โครงการวิจัยของ สวทช. เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบป้อนให้กับโรงผลิตน้ำมันบางจาก จากวัตถุดิบ 2 แหล่ง คือน้ำมันพืชใช้แล้ว และน้ำมันปาล์ม
 

 ปัจจุบันบางจากมีโรงผลิตน้ำมันตั้งอยู่ที่ อ.บางปะอิน กำลังการผลิต 2 หมื่นลิตรต่อวัน เพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล B5 กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งบางจากตั้งเป้าที่จะผลิตไบโอดีเซลในระดับ 3 แสนลิตรต่อวัน ทำให้ต้องหาวัตถุดิบเพิ่มเติมจากพื้นที่ปลูกปาล์มบริเวณใกล้เคียง หรือพื้นที่ทุ่งรังสิตโดยรอบ
 

 “ความต้องการน้ำมันไบโอดีเซล B5 ในประเทศเป็นที่นิยม ถึง 70% โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ทำให้เราตั้งเป้าขยายกำลังการผลิต โดยปัจจุบันน้มันไบโอดีเซลที่ผลิตได้สามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันได้ถึง 8 หมื่นล้านบาทต่อปี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางปิโตรเลียม จำกัดกล่าว
 

 ทั้งนี้ ราคาผลปาล์มสดที่บางจากรับซื้อจะอยู่ที่ 4-5 บาทต่อกิโลกรัมผลปาล์มสด แต่หากเป็นน้ำมันแปรรูป สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมได้ถึง 2 เท่า โดยบางจากมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันปาล์มจากผลปาล์มสดที่ 2 ตันต่อวัน ซึ่งหากได้วัตถุดิบเพิ่มเติมจากเกษตรกรในพื้นที่ คาดว่าจะสามารถผลิตได้ถึง 300 ตันต่อวัน ตอบรับความต้องการไบโอดีเซลในประเทศที่มีอยู่กว่า 50-60%
 

 หากมองถึงนโยบายของรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานที่ประกาศสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนในสัดส่วน 20%ในอีก 5 ปี ทำให้มีการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันไบโอดีเซลในอนาคตจะสูงถึง 5-6 ล้านลิตรต่อวัน
 

 “การเพิ่มจำนวนวัตถุดิบให้เพียงพอกับความต้องการในอนาคต จำเป็นต้องอาศัยงานวิจัยเข้ามาช่วยเสริม โดย สวทช. ได้เดินหน้าศึกษาพืชพลังงานทดแทนจากปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันให้ไทยมีความสามารถพึ่งพาตนเอง และเป็นผู้นำในการผลิตพลังงานทดแทนอันดับ 1 ของเอเชียได้ไม่ยาก” 

 
 ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวเสริมว่า การพัฒนาปาล์มให้เป็นพืชพลังงานของประเทศยังคงต้องการงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิจัยเองต้องเดินหน้าหาความรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ไม่ได้จำกัดเฉพาะ B5 และเป็น B10 ไปจนถึง B100 ซึ่งความร่วมมือกับภาคเอกชนจะช่วยให้สร้างความสามารถให้กับคนไทยมากขึ้น
 

 นอกจากนี้ เอ็มเทค ได้มีความร่วมมือกับสถาบันวิจัยพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงของประเทศญี่ปุ่น (Institute of Advanced Industrial Science and Technology : AIST) พัฒนาพลังงานทดแทนจากการแปรรูปพืชน้ำมัน
 

ได้แก่ ปาล์มน้ำมันให้ได้มาตรฐาน รวมถึงความร่วมมือในการวิจัยเพื่อการผลิตน้ำมันไบโอก๊าซโซลีน หรือน้ำมันเบนซิน จากเปลือกและส่วนต่างๆ ของปาล์มน้ำมันจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น


 

 

 ขอขอบคุณทุกๆที่มาของแหล่งข่าว