สาระน่ารู้เกี่ยวกับอุณหภูมิเพิ่มเติม (จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
สูตรการแปลงอุณหภูมิ
แปลงจาก
|
ไปเป็น
|
สูตร
|
องศาฟาเรนไฮต์ |
องศาเซลเซียส |
°C = 5⁄9 (°F - 32) |
องศาเซลเซียส |
องศาฟาเรนไฮต์ |
°F = (9⁄5*°C) + 32 |
เคลวิน |
องศาเซลเซียส |
°C = K - 273.15 |
องศาโรเมอร์ |
องศาเซลเซียส |
°C = °R × 1.25 |
องศาเซลเซียส |
องศาโรเมอร์ |
°R = °C × 0.8 |
องศาเซลเซียส |
เคลวิน |
K = °C + 273.15 |
เคลวิน |
องศาฟาเรนไฮต์ |
°F = K × 1.8 − 459.67 |
องศาฟาเรนไฮต์ |
เคลวิน |
K = (°F + 459.67) ÷ 1.8 |
องศาเซลเซียส
องศาเซลเซียส (อังกฤษ: degree Celsius, สัญลักษณ์ °C) เป็นหน่วยวัดอุณหภูมิหน่วยหนึ่งในระบบเอสไอ กำหนดให้จุดเยือกแข็งของน้ำคือ 0 °C และจุดเดือดคือ 100 °C
ปัจจุบันองศาเซลเซียสใช้กับแพร่หลายทั่วโลกในชีวิตประจำวัน จะยกเว้นก็มีสหรัฐอเมริกาและประเทศจาไมกาเท่านั้นที่นิยมใช้หน่วยองศาฟาเรนไฮต์ แต่ในประเทศดังกล่าว องศาเซลเซียสและเคลวินก็ใช้มากในด้านวิทยาศาสตร์
นิยามขององศาเซลเซียสนิยามจากหน่วยเคลวิน โดยที่ขนาดของสเกลหน่วยองศาเซลเซียสจะเท่ากับของเคลวิน กำหนดให้อุณหภูมิที่จุดศูนย์องศาสัมบูรณ์มีค่าเท่ากับ -273.15 °C
ประวัติ
หน่วยนี้ตั้งตามชื่อของนาย แอนเดอร์ เซลเซียส (Anders Celsius มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1701 ถึง 1744) นักดาราศาสตร์ชาวสวีเดน เขาเป็นคนแรกที่เสนอระบบที่ใกล้เคียงกับระบบนี้ในปี พ.ศ. 2285 (ค.ศ. 1742) แต่แรกกำหนดให้อุณหภูมิจุดเยือกแข็งของน้ำคือ 0 องศา และจุดเดือดของน้ำคือ 100 องศาที่ระดับความดันบรรยากาศมาตรฐาน แต่ได้มีการสลับสเกลต่อมาหลังจากที่เซลเซียสเสียชีวิตไประยะหนึ่ง
ในปี พ.ศ. 2491 หน่วยนี้มีชื่อเรียกต่างกันสามแบบ ได้แก่
- เซนติเกรด (centigrade)
- องศาเซนเทสซิมัล (centesimal degree)
- องศาเซลเซียส
แต่นับจากนั้นมา ชื่อที่ถูกเลือกเป็นทางการคือ องศาเซลเซียส จากการประชุม General Conference on Weights and Measures ครั้งที่ 9 โดยมีจุดประสงค์เพื่อระลึกถึงเซสเซียส และเป็นการตัดปัญหาความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คำนำหน้า centi- กับระบบเอสไอ และจากการที่นิยามเดิมไม่เหมาะสมที่จะใช้เป็นมาตรฐานอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอุณหภูมิขึ้นกับนิยามของความดันบรรยากาศมาตรฐาน ซึ่งความดันบรรยากาศมาตรฐานนี้ก็ขึ้นกับอุณหภูมิอีกทีหนึ่ง จึงกำหนดนิยามใหม่ให้อุณหภูมิ 0.01 °C ตรงกับจุดสามสถานะ (triple point) ของน้ำ และให้สเกลหนึ่งองศามีค่าเป็น 1/273.16 เท่าของผลต่างระหว่างอุณหภูมิที่จุดสามสถานะของน้ำกับจุดศูนย์องศาสัมบูรณ์ นิยามนี้ได้รับการยอมรับในการประชุม General Conference on Weights and Measures ครั้งที่ 10 เมื่อปี พ.ศ. 2497
องศาฟาเรนไฮต์
องศาฟาเรนไฮต์ คือชนิดสเกลค่าวัดอุณหภูมิชนิดหนึ่ง ที่ถูกตั้งชื่อตามนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน เกเบรียล ฟาเรนไฮต์ (1686-1736) โดยที่ค่าสเกลองศาฟาเรนไฮต์นี้ มีจุดเยือกแข็งอยู่ที่ 32 องศาฟาเรนไฮต์ โดยปกติจะเขียนว่า 32°F และมีจุดเดือดที่ 212 องศาฟาเรนไฮต์ โดยที่มีระยะห่างระหว่างจุดเยือกแข็งกับจุดเดือดของน้ำคือ 180 องศา โดยที่ 1 องศาในสเกลองศาฟาเรนไฮต์นี้ มีค่าเท่ากับ 5/9 ของ 1 เคลวิน (ซึ่งก็คือ 1 องศาเซลเซียส) และที่ลบ 40 องศาฟาเรนไฮต์เท่ากับติดลบ 40 องศาเซลเซียส
ในปัจจุบัน สเกลค่าวัดอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮต์นี้ ได้ถูกนำไปใช้ในมาตรวัดมาตรฐานของประเทศอังกฤษคู่กับหน่วยวัดอื่น ๆ เช่น ไมล์ ปอนด์ เมื่อนานมาแล้ว แต่ในปัจจุบันนั้น ประเทศอังกฤษได้หันมาใช้หน่วยต่าง ๆ ของระบบเอสไอ (SI) แทน ทำให้ได้มีการเปลี่ยนมาใช้สเกลค่าวัดอุณหภูมิเซลเซียสและเคลวินแทน
ประเทศที่มีการใช้หน่วยองศาฟาเรนไฮต์ในปัจจุบันได้แก่ประเทศที่ยังใช้หน่วยมาตรวัดมาตรฐานของอังกฤษเก่า ซึ่งได้แก่สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ คอสตาริกา เปอร์โตริโก
เคลวิน
เคลวิน (อังกฤษ: kelvin, สัญลักษณ์: K) เป็นหน่วยวัดอุณหภูมิหนึ่ง และเป็นหน่วยพื้นฐานหนึ่งในเจ็ดของระบบเอสไอ นิยามให้เท่ากับ 1/273.16 เท่าของอุณหภูมิเทอร์โมไดนามิกของจุดสามสถานะของน้ำ เคลวินตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแต่นักฟิสิกส์และวิศวกรชาวอังกฤษ วิลเลียม ทอมสัน บารอนที่หนึ่งแห่ง เคลวิน (William Thomson, 1st Baron Kelvin) ซึ่งชื่อบรรดาศักดิ์นี้ตั้งตามชื่อ แม่น้ำเคลวิน อีกทีหนึ่ง แม่น้ำสายนี้ตัดผ่านมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สกอตแลนด์
|