ดูไบ VS เมืองไทย
โดย : Admin

 

วันนี้เดินเล่นอยู่แถวดูไบ ได้คุยกับเพื่อนที่มาจากอเมริกา

ก็เลยกลับมาที่คำถามว่า ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถสร้างผู้ประกอบการ(เถ้าแก่)ที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีการศึกษาดี มีหัวคิดทันสมัย เข้าใจการใช้ประโยชน์จากไอทีให้มากๆ ผมเลยมาพบว่าที่ดูไบ ระบบธนาคารเขาส่งเสริมให้คนท้องถิ่นได้มีโอกาสกู้เงินไปทำธุรกิจได้ง่ายและมีจำนวนให้กู้สูง เขาเลยจ้างคนต่างชาติมาเป็นลูกน้อง มาเป็นลูกจ้าง แต่ของเราเอาคนต่างชาติเข้ามาเป็นนาย ยกเว้นก็เพียงแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน

  

      

   หันมาดูทางอเมริกา ความที่เขามีเงินเยอะ ตั้งกองทุนได้ง่าย จึงมี Venture Capital หรือกองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการแบบการร่วมทุนมาก เรียกได้ว่ามากกว่าธนาคารด้วยซ้ำ หลักการของเขาคือ เอาเด็กรุ่นใหม่มาเป็นสมองและผู้ประกอบการ ส่วนกองทุนเป็นผู้ออกทุนให้ทั้งหมด แต่มีหุ้นกันคนละครึ่ง พอธุรกิจประสบความสำเร็จ กองทุนก็ขายหุ้นออกเอาเงินคืน ก็เหมือนแทงหวยละครับ กองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ 10 ราย ประสบความสำเร็จ 2 รายก็กำไรแล้ว


เราจะเห็นได้จากผู้ประกอบการที่ตั้งตัวได้โดยวิธีนี้ก็มี Steve Jobs (Apple) มี Bill Gates (Microsoft) Michael Dell (Dell Computer) หรือแม้กระทั่ง Mark Zuckerberg (Facebook) 

 

ที่ผมเล่ามานี้ ก็อยากจะเชิญชวนเศรษฐีไทยซึ่งระยะหลังนี้มีมาก รวยกันหลายหมื่นหรือแสนล้านไปแล้ว จะเจียดเงินมาทำกองทุนแบบนี้ ซึ่งก็ถือเป็นการขยายธุรกิจของตัวเองแต่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่และมีทีมงานมืออาชีพคอยวิเคราะห์และส่งเสริมคนรุ่นใหม่บ้างก็จะเป็นประโยชน์ 


รัฐบาลก็ได้มีการทำผ่านโครงการกองทุนตั้งตัวได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่พอ ถ้าเอกชนทำด้วยจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตได้รวดเร็วและแข็งแรงขึ้นครับ เราอาจจะมีบริษัทระดับโลกขึ้นมาก็ได้ 


แต่ถ้าเด็กรุ่นใหม่ๆ ทำสำเร็จก็ต้องช่วยกันดีใจกับเขา อย่าไปอิจฉาความสำเร็จของเด็กๆเขาก็แล้วกันครับ

 

 

ที่มา :   https://www.facebook.com/thaksinofficial

 

 

เนื้อหาโดย: 9engineer.com (https://9engineer.com/)