นิตยสารไทม์ ได้ตีพิมพ์ 10 ไอเดีย ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ ซึ่งแต่ละไอเดียเป็นมุมมองใหม่ๆ และจัดอยู่ในประเภท "คิดนอกกรอบ"
ไม่แน่ว่า ไอเดียเหล่านี้ อาจจะมีผลต่อระบบความคิดของคุณ อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนชีวิตให้แตกต่างไปจากเดิม ดังนี้
1. การอยู่คนเดียว
การอยู่คนเดียว นับเป็นบรรทัดฐานใหม่ เพราะการอยู่คนเดียว ทำให้มีเสรีภาพ สามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ จากการวิจัยโดยการสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่คนเดียวกว่า 300 คนพบว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกเหงา หรือโดดเดี่ยว แต่หากมีปฏิกิริยาทางสังคมดีกว่า ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นจอห์น ที. คาชิออปโป นักประสาทวิทยา จากมหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา สรุปไว้หนังสือโดดเดี่ยวเดียวดายหรือโลนลิเนส( Loneliness) ที่เข้าร่วมประพันธ์ว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าคุณอยู่คนเดียวหรือไม่ หากแต่เป็นเรื่องที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่ นอกจากนี้ ผู้ที่มีประสบการณ์การหย่าร้าง มักจะพูดว่า ไม่มีความเหงาและโดดเดี่ยวใดมากไปกว่าการอยู่ร่วมกับ “คนที่ไม่ใช่”
2. การเพิ่มขึ้นของคนที่ตอบว่า ตนเองไร้ศาสนา
จำนวนประชากรอเมริกันที่ตอบว่า เป็นคนไร้ศาสนาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นับแต่ปี 1990 บางคนคิดว่า เขาไม่ได้ปฏิเสธพระเจ้า แต่พวกเขากำลังปฏิเสธระบบการจัดการศาสนา ที่เคร่งครัด ยากที่จะเปลี่ยนแปลง และหลักธรรมอันสูงส่ง โดยไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง
3. พึ่งคอมพิวเตอร์มากไป สมองว่างเปล่า อยู่กับความเพ้อฝัน
ในแต่ละวัน ชาวอเมริกันใช้เวลาราว 12 ชั่วโมงบริโภคข่าวสาร นั่นหมายถึงตัวอักษรมากกว่า 100,000 คำ และถ้าถามว่า ธงของประเทศอะไรที่มีสีเพียงสีเดียว สิ่งแรกที่คิดถึง ไม่ใช่เรื่องธง แต่เป็นคอมพิวเตอร์ ที่จะมาช่วยหาคำตอบให้ต่างหาก ทุกวันนี้ คนเรานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บริโภคข่าวสาร โดยไม่ต่างอะไรไปจากกล้วยไม้ที่เกาะบนต้นไม้ใหญ่ และคอยดูดกินน้ำ เพราะทุกคำตอบ ทุกข้อมูล ล้วนหาได้ ล้วนจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็สมาร์ทโฟน โดยเราแทบจะไม่ต้องใช้สมองของเราเองอีกแล้ว นั่นจะทำให้เรามีแต่สมองที่ว่างเปล่า
4. ลดขยะ ลดโลกร้อน
มีตัวอย่างจากบทวิเคราะห์นี้ว่า หากครอบครัวชาวอเมริกัน ลดการใช้ถุงพลาสติกลงสัก 10 ถุงในแต่ละเดือน จะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้ มากถึง 2.5 พันล้านใบต่อปี แนวคิดการลดขยะนี้ เป็นแนวคิดหนึ่งที่จะช่วยลดสภาวะโลกร้อนลงได้ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
5. การยืดอายุอาหาร แก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร
แนวคิดหลักคือ หากปราศจากวิธีการอันชาญฉลาดในการยืดอายุอาหาร มนุษย์อาจจะต้องเผชิญหน้ากับภาวะการขาดแคลนอาหาร ด้วยจำนวนประชากรโลกที่คาดว่าจะแตะ 7 พันล้านคนในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีตัวเลขว่า ประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดเทคโนโลยีควบคุมความเย็นในระบบการกระจายอาหาร จะมีความสูญเสียถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ บางแห่งมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความไม่มั่นคงทางด้านการผลิตอาหาร บวกกับผลกระทบที่เกิดจากสภาวะโลกร้อนอีกด้วย
6. การเหยียดผิวจะไม่มีผลอีกต่อไป
การเหยียดผิวในอดีตอาจจะสร้างความเจ็บแค้น เจ็บปวดให้คนกลุ่มคนผิวสี แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้พลิกผันไปแล้ว สิ่งเหล่านี้จะไม่มีผลกระทบอะไรอีกต่อไป
7. สถานภาพยิ่งสูง ยิ่งเครียด
ผู้ที่มีสถานภาพสูงทั้งสถานะการศึกษา การงาน หรือการเงิน เหล่านี้ มีแนวโน้มเกิดความเครียดได้ง่าย การตกอยู่ในกับดักแห่งความสำเร็จยิ่งทำให้คนใช้ชีวิตยากขึ้น แม้กระทั่งรายปลีกย่อย เช่นการแต่งกายที่เหมาะสม การเลือกทรงผม หรืออะไรที่สำคัญกว่านั้น เช่น ที่อยู่อาศัย การเลือกสิ่งแวดล้อมให้กับบุตรหลาน เหล่านี้ ล้วนต้องอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมมากว่า การเลือกด้วยความรู้สึกว่าชอบ หรือไม่ชอบ
8. การมีสิทธิส่วนบุคคลในพื้นที่สาธารณะ
มาตรการของภาครัฐในการดูแลความปลอดภัย การป้องกันและการสืบสวนทางอาชญากรรมที่มี ทั้งการติดอุปกรณ์จีพีเอส การดูข้อมูลการใช้โทรศัพท์ย้อนหลังในมือถือ หรือการที่สามารถเข้าไปเช็คได้ว่า ใครคลิกเข้าไปท่องโลกอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ใดบ้าง เหล่านี้ เป็นมาตรการที่จะช่วยดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ในอีกแง่หนึ่งนี่คือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
9. การยอมรับธรรมชาติ
ตัวอย่างหายนะจากภัยธรรมชาติที่ผ่านมา คงต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถต่อกรกับธรรมชาติได้ เราได้แต่เพียงยอมรับว่านี่คือธรรมชาติ และมันก็จะเป็นไปเช่นนั้น ทั้งนี้เพราะธรรมชาติมีพลังมากกว่าที่เราคิดมากมาย
10. การเตรียมชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ
การเตรียมชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ทั้งสถานที่ กิจกรรม เพื่อนในวัยเดียวกัน ที่จะเป็นรูปแบบของการใช้ชีวิตหลังเกษียณ(retirement model ) ตัวอย่างที่ สหรัฐอเมริกาในเวลานี้ มีประมาณ 100 ชุมชน ที่มีบ้านที่ได้มาตรฐาน พยาบาลที่มีทักษะในการดูแลคนสูงวัย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ชุมชนเช่นนี้จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างความพยายามที่จะสร้างชุมชนวัยเกษียณขึ้นที่ ปาล์มสปริง มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งโฟกัสไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุราว 40 ต้นๆ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายเกย์ และเลสเบี้ยนอีกด้วย
(ที่มา นิตยสารไทม์ ฉบับ 12 มีนาคม 2555)