บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์
Electronic Ballast
บัลลาสต์เป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้
ต้องมีอยู่ในระบบไฟฟ้าแสงสว่างที่ใช้หลอดไฟประเภทฟลูออเรสเซนต์
ประเภทหลอดคายประจุความดันสูง
โดยมีหน้าที่ควบคุมกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไปในชั้วหลอดให้มีค่าเหมาะสม
สม่ำเสมอตามแต่ละประเภท หลอดแต่ละชนิด แต่ละรุ่น แต่ละขนาด
บัลลาสต์ประหยัดพลังงานที่นิยมใช้กันมาก คือ บัลลาสต์โลว์ลอส (Low Loss Ballast)
และอิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ (Electronic Ballast)
แต่ในที่นี้เราจtเพูดถึงอbเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์เพียงอย่างเดียว
อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ (Electronic Ballast) มีข้อดีและข้อเสียสรุปโดยสั้น ๆ คือ
อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ สามารถลดความสูญเสียประมาณ 10-12
วัตต์ต่อหลอดเมื่อเทียบกับบัลลาสต์ธรรมดา
แต่จะมีราคาแพงกว่าสำหรับระยะเวลาการคืนทุนและผลประหยัดที่จะได้รับนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชั่วโมงการเปิดใช้งานของหลอดไฟ
ลักษณะของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ความถี่สูง
เมื่อ
การประหยัดพลังงาน หมายถึง การลดต้นทุนที่สามารถเอาชนะคู่แข่งขันได้
บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์จึงเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในบรรดาอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
เพราะนอกเหนือจากการประหยัดพลังงานได้ถึง 30% แล้ว
ยังคืนกำไรให้กับผู้ลงทุนได้ในอัตราผลตอบแทนที่สูงเพราะหากใช้งานมากเท่าไรยิ่งกำไรเร็วขึ้นเท่านั้น
บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่เช่นเดียวกับบัลลาสต์แกนเหล็ก
แต่บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์จะเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสสลับความถี่ปกติ 50 เฮิรตซ์
(Hz) เป็นไฟฟ้ากระแสสลับความถี่สูงค่าระหว่าง 25 ถึง 50 กิโลเฮิรตซ์
(kHz) เพื่อป้อนให้กับหลอดฟลูออเรสเซนต์

วงจรการต่อใช้งานของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์
กระแสไฟฟ้าสลับจากแหล่งจ่ายจะถูกเรียงกระแสและกรอง
เพื่อที่จะเปลี่ยนเป็นแหล่งกระจายกระแสไฟฟ้าตรงสำหรับวงจรสวิตซ์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวกำเนิดความถี่จะผลิตสัญญาณความถี่สูงซึ่งจะขับตัวทรานซิสเตอร์ให้ทำงานสลับกัน
โดยมีตัวเหนี่ยวนำแกนเฟอร์ไรท์ทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟฟ้าและตัวเก็บประจุคร่อมหลอดทำหน้าที่กำหนดความถี่
และการสตาร์ท บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ควรมีความถี่ด้านออกอยู่ในช่วง 25 ถึง 50
กิโลเฮิรตซ์ เพื่อป้องกันการรบกวนต่อความถี่เสียงและความถี่วิทยุ
และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของหลอดฟลูออเรสเซนต์
โดยสามารถลดกำลังสูญเสียที่หลอดลงมาได้ 10 %
และยังคงความสว่างเท่ากันเมื่อขับหลอดที่ความถี่ปกติ 50 เฮิรตซ์
และเนื่องจากบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบกันเป็นวงจร เพื่อทำงานในย่านความถี่สูง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะลดกำลังการสูญเสียที่ตัวบัลลาสต์ 60%
โดยเปรียบเทียบกับบัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดาที่แสงสว่างออกมาเท่ากัน
คุณสมบัติของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์
- ช่วยประหยัดไฟได้ 10
วัตต์ต่อหลอดไม่ว่าจะใช้กับหลอด 18 วัตต์ 36 วัตต์ จากเดิมที่กินไฟ 28 วัตต์ 46
วัตต์ ตามลำดับ
- ประหยัดไฟของเครื่องปรับอากาศได้ประมาณ 3.3 วัตต์ต่อหลอด
เนื่องจากเกิดการสูญเสียที่น้อยกว่า
อุณหภูมิขณะทำงานของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ต่ำกว่าบัลลาสต์แกนเหล็ก
- ช่วยประหยัดค่าสตาร์ทเตอร์ได้
เพราะบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องใช้สตาร์ทเตอร์
จึงทำให้ประหยัดค่าสตาร์ทเตอร์และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน
- ประหยัดหลอดไฟได้
เพราะบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีการควบคุมการจุดหลอมที่แน่นอนกว่าบัลลาสต์แกนเหล็ก
จึงทำให้หลอดฟลูออเรสเซนต์มีอายุยาวนานกว่าเดิม 20-50%
- บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์มากกว่า 0.95
ลดการใช้กระแสไฟมากกว่า 80%
ทำให้สายไฟและขั้วหลอดมีความร้อนสะสมขณะใช้งานลดลงจึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อเปิดสวิตซ์
หลอดไฟจะติดทันทีไม่มีปัญหาของการกระพริบ เนื่องจากสตาร์ทหรือหลอดเสื่อมคุณภาพ
โดยใช้ได้กับหลอดทั่วไป
- บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ให้แสงที่นุ่มนวล ไม่มีการกระพริบที่ชั้วหลอด
(Stroboscopic Effect) ซึ่งจะช่วยถนอมสายตา
|
บัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดา |
บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ |
หลอดไฟที่ใช้ |
ฟลูออเรสเซนต์ ขนาด 36 วัตต์ |
ฟลูออเรสเซนต์ ขนาด 36 วัตต์ |
กำลังไฟฟ้าที่หลอด |
36
วัตต์ |
34
วัตต์ |
กำลังสูญเสียที่บัลลาสต์ |
10
วัตต์ |
0
วัตต์ |
กำลังไฟฟ้าวงจรรวม |
46
วัตต์ |
34
วัตต์ |
เปอร์เซนต์เปรียบเทียบความสูญเสีย |
100 |
78
วัตต์ |
ข้อดีและข้อเสียของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์
บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่ไม่แตกต่างกับบัลลาสต์แบบขดลวดแกนเหล็กธรรมดา
แต่แทนที่จะใช้แกนเหล็กพันขดลวดธรรมดาก็เปลี่ยนมาใช้เป็นวงจรทางอิเล็กทรอนิกส์แทน
ดังนั้นภายในตัวบัลลาสต์จึงบรรจุไว้ด้วยชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
ข้อดี
- มีการสูญเสียพลังงานในตัวต่ำประมาณ
2-4 วัตต์ และมีค่าตัวประกอบกำลังที่ดี
- ไม่ต้องใช้สตาร์ทเตอร์ภายนอกมาต่อเติมและบัลลาสต์อิเล็กทรอสิกส์ 1 ตัว
สามารถใช้กับหลอดไฟฟ้าได้ 1,2,3 หรือ 4 หลอด
ทำให้สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายออกไป
- ได้ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างที่มีคุณภาพดีขึ้น เนื่องจากไม่มีการกระพริบ
และได้แสงที่มีคามสว่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีผลต่อสายตามในระยะยาว
- ทำให้หลอดไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น 30-50%
- บัลลาสต์ที่ออกแบบพิเศษสามารถหรี่ไฟในหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้
ข้อเสีย
- มีราคาแพงกว่าบัลลาสต์ธรรมดา
- มีข้อจำกัดในการใช้งานในสถานที่หรือบริเวณที่มีอุณภูมิสูง มีละอองไอน้ำสูง
ไอน้ำมันหรือฝุ่นผงสูงเป็นพิเสษ
มักจะทำให้บัลลาสต์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง
- อาจก่อให้เกิดผลกระทบเพิ่มเติมในระบบไฟฟ้า
หรือบัลลาสต์อาจมีระบบคลื่นความถี่แทรกซ้อนได้ บัลลาสต์อาจมีอายุการใช้งานสั้น
ไม่ทนทาน ถ้าเป็นบัลลาสต์ที่ไม่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน
และเลือกใช้วัสดุชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ดี
รวมไปถึงมาตรฐานในการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ช่างไฟฟ้าทั่วไปไม่คุ้นเคยกับการใช้งานและการติดตั้ง
|