Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 175,366
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 173,517
3 100,000D_เครื่องมือช่าง 172,934
4 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 172,688
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 170,413
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 169,491
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 168,456
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 167,764
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 160,251
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 158,387
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 158,308
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 157,450
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 67,490
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 62,072
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 50,420
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 43,496
17 Industrial Provision co., ltd 39,162
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 38,320
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 36,240
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 34,566
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 33,384
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 31,800
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 31,156
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 30,904
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 27,521
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 26,460
27 P.D.S. Automation co.,ltd 22,890
28 AVERA CO., LTD. 22,535
29 เลิศบุศย์ 21,635
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 20,318
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 20,186
32 แมชชีนเทค 19,835
33 Electronics Source Co.,Ltd. 19,804
34 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 19,128
35 มากิโน (ประเทศไทย) 19,080
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 18,742
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 18,550
38 SAMWHA THAILAND 18,238
39 วอยก้า จำกัด 17,828
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 17,416
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 17,277
42 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 17,242
43 I-Mechanics Co.,Ltd. 17,187
44 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 17,139
45 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 17,079
46 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 17,006
47 Systems integrator 16,656
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 16,576
49 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 16,398
50 Advanced Technology Equipment 16,383
06/09/2563 08:02 น. , อ่าน 3,823 ครั้ง
Bookmark and Share
จีนลงทุนพม่า
โดย : Admin

เมียนมาร์กับความลงตัวของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน

 

 

 



การเยือนเมียนมาร์ครั้งประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีจีนสีจิ้นผิงเมื่อเดือนมกราคมไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากสื่อในภูมิภาคมากนัก โดยรายงานส่วนใหญ่แสดงให้เห็นถึงการโปรโมตอย่างเป็นทางการของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากข้อตกลงที่สำคัญที่สุด 4 ข้อจาก 33 ข้อ ที่ระธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามกับเมียนมาร์ ประการแรกเป็นแผนการที่จะสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากชายแดนทางเหนือของเมียนมาร์กับจีนตอนใต้ลงไปที่เมืองมัณฑะเลย์ตอนกลาง และไปถึงชายฝั่งทางใต้ของเมียนมาร์ เป้าหมายประการที่สองเพื่อผลักดันโครงการท่าเรือเจาะพยูซึ่งตั้งอยู่บนอ่าวเบงกอลซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยให้จีนเข้าถึงมหาสมุทรอินเดียได้โดยพฤตินัย และเปลี่ยนกลยุทธ์ของภูมิภาคนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอินเดียประการที่สามคือโครงการขนาดใหญ่ที่เสนอเพื่อสร้าง “เมืองใหม่” ตรงข้ามกับย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของเมียนมาร์ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยให้จีนยึดครองศูนย์กลางการค้าของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการตอกย้ำให้ปักกิ่งยึดมั่นในเศรษฐกิจในวงกว้างของประเทศ โครงการสุดท้ายคือการจัดตั้ง “เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจชายแดน” ซึ่งครอบคลุมดินแดนทั้งสองด้านของชายแดนทั้งสองด้านที่เมืองมูเซะ ทางตอนเหนือของเมียนมาร์ และเมืองรุยลี่ทางตอนใต้ของจีน โครงการเมกะโปรเจ็กต์ทั้งสี่นี้จะกระชับการถือครองทางเศรษฐกิจ และยุทธศาสตร์ของจีนในเมียนมาร์ ในขณะเดียวกันก็ให้การเข้าถึงมหาสมุทรอินเดียโดยตรงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์



เมียนมาร์ถือเป็นกุญแจสำคัญในการตระหนักถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ไม่มีประเทศใกล้เคียงอื่นใดที่สามารถจัดหาทางออกที่ปลอดภัยให้กับจีนไปยังมหาสมุทรอินเดียได้โดยข้ามทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อโต้แย้ง และช่องแคบมะละกาที่คับคั่งซึ่งการนำเข้าเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ แม้ว่าปากีสถานมีพรมแดนติดกับประเทศจีนทางทิศตะวันตกที่มณฑลซินเจียงต่อมาเชื่อมต่อด้วยทางหลวงลงไปยังที่ราบลุ่มของปากีสถาน และออกสู่ทะเลแต่ถนนมักถูกปิดกั้นด้วยหิมะและน้ำแข็งในฤดูหนาว และต้องปีนขึ้นไปที่ระดับความสูง 4,714 เมตร ที่มีความขรุขระ และมีความเสี่ยง นอกจากนี้ซินเจียงยังตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของจีนห่างไกลจากเมืองใหญ่ที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงและศูนย์กลางอุตสาหกรรม ความสนใจเชิงกลยุทธ์ของจีนในสิ่งที่กลายมาเป็นระเบียงเศรษฐกิจจีน – เมียนมาร์ เกิดขึ้นก่อนโครงการ BRI ของ สีจิ้นผิงหลายทศวรรษ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสื่อสารซึ่งแย้งว่าจีนจะต้องหาทางออกสำหรับการส่งออกสำหรับจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลผ่านเมียนมาร์ ซึ่งในช่วงต้นทศวรรษ 1990 การค้าชายแดนเริ่มขึ้น และจีนได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ Jiegao ตรงข้ามเมืองมูเซะในเมียนมาร์ ในปีพ.ศ. 2551 และ ปีพ.ศ. 2552 มีการทำข้อตกลงเพื่อสร้างท่อส่งน้ำมัน และก๊าซจากชายฝั่งเมียนมาร์ไปยังมณฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีน เมียนมาร์ไม่เพียงกลายเป็นทางออกสำหรับการส่งออกของจีน แต่ยังเป็น 'ทางเข้า' ด้วยทำให้การนำเข้าน้ำมันและก๊าซบางส่วนของจีนเพื่อเลี่ยงทะเลจีนใต้และช่องแคบมะละกา
ปัจจุบันความสนใจของจีนในเมียนมาร์ก้าวไปไกลกว่านั้น ตอนนี้ความคิดริเริ่มในเมียนมาร์เกี่ยวกับการครอบงำทางภูมิศาสตร์ - ยุทธศาสตร์ และนี่คือปัญหาและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น แผนการที่ยิ่งใหญ่ของจีนจะต้องปะทะกับมหาอำนาจมหาสมุทรอินเดียที่มีอยู่ เช่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งรักษาฐานทัพสำคัญของดิเอโกการ์เซีย และแม้แต่ฝรั่งเศสซึ่งควบคุมอาณาเขตทางทะเลขนาดใหญ่ทางตอนใต้ ประเทศอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาเส้นทางเดินเรือในมหาสมุทรอินเดียเพื่อเชื่อมต่อกับส่วนที่เหลือของโลกก็มีเหตุผลที่ต้องกังวลเช่นกัน หากโครงการ BRI และการเชื่อมโยงผ่านเมียนมาร์ดำเนินการสำเร็จในไม่ช้าอาจทำให้จีนเป็นผู้กุมอำนาจเหนือภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย จากมุมมองของจีนเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของการค้าข้ามมหาสมุทร และการจัดหาน้ำมันจากตะวันออกกลางจีนจึงจำเป็นต้องมี "ร่มป้องกัน" เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนอย่างปฏิเสธไม่ได้ เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่คร่อมพรมแดนจีน - เมียนมาร์ทำให้จีนได้เปรียบอีกประการหนึ่งซึ่งควรถูกมองว่าเป็นยุทธศาสตร์เนื่องจากจะเปิดพรมแดนร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในแบบที่มองไม่เห็นมาก่อน
 



โครงการ “เมืองใหม่ย่างกุ้ง” โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงภูมิภาคย่างกุ้ง และผู้ประกอบการซิโน – เมียนมาร์เป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ในขณะเดียวกันก็ช่วยขยายอิทธิพลทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนให้ลึกเข้าไปในใจกลางของเมียนมาร์ ในระยะแรกของโครงการขนาดใหญ่จะครอบคลุมพื้นที่ 8,000 เฮกตาร์ทางตะวันตกของแม่น้ำย่างกุ้ง และจะนำโดย New Yangon Development Company Limited (NYDC) ในเดือนพฤษภาคมปี พ.ศ 2561 NYDC ได้ลงนามในข้อตกลงกรอบมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์กับ China Communications Construction Company (CCCC) ของจีน ซึ่งให้คำมั่นว่าจะสร้างสะพาน ถนน สถานีไฟฟ้า โรงบำบัดน้ำ และนิคมอุตสาหกรรมสำหรับเมืองใหม่ ในขณะเดียวกันโครงการขนาดใหญ่ของจีนในเมียนมาร์ก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เนื่องจากหลายโครงการอาจส่งผลให้เกิดภาระหนี้จำนวนมากสำหรับรัฐบาลที่มีเงินสดอยู่แล้วของเมียนมาร์ซึ่งอาจทำลายอธิปไตยทางเศรษฐกิจของประเทศได้ในกรณีที่ผิดนัดชำระหนี้ รัฐบาลของเมียนมาสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่อง "กับดักหนี้" ที่เพิ่มขึ้นเพื่อเจรจาลดต้นทุนโครงการท่าเรือจาวผิ่วโดยลดจากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์เหลือ 1.3 พันล้านดอลลาร์และสัดส่วนการถือหุ้นของจีนลดลงจาก 85% เป็น 70% กับดักหนี้ และการพึ่งพาทางเศรษฐกิจขณะนี้มีเพียงเล็กน้อยที่จะหยุดยั้งการผลักดันอย่างหนักของจีนลงสู่มหาสมุทรอินเดีย และเมื่อจีนอยู่ที่นั่นระเบียงเศรษฐกิจเมียนมาร์ - จีนซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ BRI จะทำให้ดุลอำนาจในทั้งภูมิภาคเอียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 



ที่มา FB:  Center for ASEAN Studies, CMU  ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

========================================================