โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
15 มกราคม 2553
นายเซอร์จิโอ มาร์ชิโอนเน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ไครสเลอร์ กรุ๊ป
ซีอีโอไครสเลอร์ แนะค่ายรถยนต์ทั่วโลกลดกำลังการผลิต เพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะในยุโรปแจงกำลังการผลิตรถทั่วโลกปีละ94ล้านคันแต่ขายได้ปีละ30ล้าน
นายเซอร์จิโอ มาร์ชิโอนเน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี แนะค่ายรถยนต์ทั่วโลก ปรับลดกำลังการผลิตลงมาให้อยู่ในระดับที่สมดุลกับความต้องการของตลาด เพื่อความอยู่รอด เนื่องจากปัจจุบัน อุปสงค์และอุปทานในตลาดรถยนต์ไม่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในยุโรป ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการรถยนต์ทั่วโลก ผลิตรถยนต์นั่งโดยสารและรถปิกอัพปีละ 94 ล้านคัน แต่จำหน่ายได้เพียงปีละกว่า 30 ล้านคันเท่านั้น
ผู้บริหารระดับสูงของไครสเลอร์ มองว่า ปัญหาการล้มละลายและภาวะดิ้นรนทางเศรษฐกิจเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือลดกำลังการผลิต แต่บรรดาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรป ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบหนักเท่า ประกอบกับได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้สามารถเดินสายการผลิตในโรงงานต่อไปได้ ทำให้กำลังการผลิตรถยนต์ในยุโรปยังคงสูงอยู่เมื่อเทียบกับความต้องการของตลาดโลกโดยรวม
นายมาร์ชิโอนเน คาดการณ์ด้วยว่า สถานการณ์ยากลำบากในอุตสาหกรรมรถยนต์ขณะนี้ จะกดดันให้เกิดการควบรวมกิจการกันในอุตสาหกรรมจนทำให้เหลือผู้เล่นเพียง 5 หรือ 6 บริษัทเท่านั้น และขณะนี้ บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ 789 แห่ง ที่ถูกยกเลิกสัญญา จากบรรดาผู้ซื้อสิทธิ ในช่วงที่บริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการรับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายล้มละลาย
ขณะเดียวกัน นายเควิน เวล ประธานเจนเนอรัล มอเตอร์ส โค (จีเอ็ม) ในจีน แสดงความมั่นใจว่า จีนจะยังคงเป็นตลาดที่มียอดขายรถยนต์สูงสุดของโลกแซงหน้าสหรัฐต่อไปอีกในปีนี้ เพราะได้การสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปักกิ่ง โดยปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้น 45% เป็นประมาณ 13.6 ล้านคัน เทียบกับยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเบาในสหรัฐที่ดิ่งลง 21% เหลือ 10.4 ล้านคัน
ขอขอบคุณที่มาของแหล่งข่าว