"Navara Calibre A/T" ตัวเลือกปิกอัพที่ตัดไม่ลงตัว
โดย : Admin

ที่มา:
11 มกราคม 2553

 


นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์

 

ผมเคยขับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ รถปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงไปแล้วก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง

จำได้ว่าครั้งนั้นเป็นการขับขี่ทดสอบเส้นทางกรุงเทพฯ พัทยา เขาเขียว แต่ว่าครั้งนั้นคาลิเบอร์มีแต่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำตลาดเพียงรุ่นเดียว แต่ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเด่นของปิกอัพนิสสัน เพราะเป็นค่ายเดียวที่ใช้เกียร์ 6 สปีด แต่ว่าครั้งนั้นคาลิเบอร์มีแต่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำตลาดเพียงรุ่นเดียว แต่ก็ต้องถือว่าเป็นจุดเด่นของปิกอัพนิสสัน เพราะเป็นค่ายเดียวที่ใช้เกียร์ 6 สปีด
 

แต่ก็อย่างว่าละครับ ผมว่ารถอย่างคาลิเบอร์ โดยเฉพาะรุ่น 4 ประตู ลูกค้าไม่น้อยน่าจะใช้เป็นการส่วนตัวมากกว่าใช้บรรทุกของ หรือประกอบการทำมาหากิน ดังนั้น ก็น่าจะมีความต้องการเกียร์ที่ช่วยให้ขับสบาย ขับสะดวกมากขึ้น และนั่นคงเป็นเหตุผลในการมาของเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
 

พูดถึงรถในรูปแบบนี้ ทุกค่ายก็ทำตลาดเหมือนกันหมด แถมบางค่ายยังมีชื่อเรียกที่ใกล้เคียงกัน จนกระทั่งผมเองแม้จะอยู่ในแวดวงนี้ ยังงงเอาเหมือนกันว่าชื่อไหนค่ายไหน เพราะมีทั้งไฮ-ไรเดอร์ ไฮ-เรเซอร์ ไฮ-แลนเดอร์ และนิสสันเป็นค่ายล่าสุดที่เข้าสู่ตลาดนี้
 

ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่เปิดตัวนาวารา รุ่นปกติทั่วไป ก็ออกแบบให้สูงกว่าปิกอัพยี่ห้ออื่นๆ อยู่แล้ว เรียกว่ารุ่นธรรมดาจอดเทียบกัน ปิกอัพนิสสันจะสูงกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา แต่ว่าก็ยังไม่ได้อารมณ์ของรถขับ 4 มากนัก ทำให้ต้องเปิดตัวรุ่นคาลิเบอร์ออกมาในที่สุด
 

ย้อนกลับไปสักหน่อย ถึงเป้าตลาดคาลิเบอร์ นิสสัน กำหนดชัดเจน ว่า เป็นปิกอัพของคนเมือง ซึ่งหลายคนคงจำได้ว่าช่วงแรกพรีเซ็นเตอร์เลยเลือกใช้นายติ๊ก เจษฎาภรณ์
 

รูปทรงของ นาวารา ผมเคยพูดมาตั้งแต่สมัยเปิดตัวใหม่ๆ แล้วว่า ชอบการออกแบบ รูปทรงมีเอกลักษณ์ บึกบึน ผสมผสานกันระหว่างเหลี่ยมสัน กับโค้งมนอย่างลงตัว และผมก็เชื่อโดยส่วนตัวอีกว่าน่าจะเป็นรถที่แต่งออกมาแล้วสวยงาม แต่ก็ต้องเลือกแต่งแบบมีรสนิยม ปัดแก้มบางๆ เท่านั้น ก็พอ อย่าแต่งเป็นงิ้วหลงโรงก็แล้วกัน ผมเชื่อว่าความใหญ่ มีกล้ามของมันเมื่อแต่งออกมาแล้วน่าจะดูดุดันไม่น้อยทีเดียว 
 

สำหรับคาลิเบอร์ นอกจากจะยกสูงเพิ่มเหมือนรุ่นขับ 4 ตีโป่งซุ้มล้อแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้อารมณ์ออฟโรด ก็เช่นคิ้วล้อแบบออฟโรด บันไดข้างแบบออฟโรด และล้อใหม่ ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 225/70 R16

เมื่อปีนเข้ามาภายในห้องโดยสาร สิ่งที่จะได้พบ ก็คือ ความกว้างขวางของมัน ทำให้นั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่วางเท้า เข่า ทั้งเบาะด้านหน้าและด้านหลังเหลือเฟือ ห้องโดยสาร โล่ง โปร่งตา และมีทัศนวิสัยที่ดี อ้ออีกอย่างกระจกมองหลังเป็นแบบปรับแสงอัตโนมัติด้วยนะครับ
 

การออกแบบภายในก็ธรรมดาๆ ไม่ได้เลิศเลอ แต่ก็ไม่เชย ผมว่าอย่างนี้ก็ดีแล้ว ดูกันได้นาน ส่วนแง่ของความสามารถในการใช้งานก็ใช้ได้ รวมถึงมีช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ หลายช่องจัด โดยเฉพาะด้านหน้าที่ทำเป็นแบบแยกออกเป็น 2 ช่อง
 

ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้สะดวก พวงมาลัย ขนาดกำลังดี กระชับมือใช้ได้

คาลิเบอร์ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล YD25DDTi 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน (VNT) อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 144 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 356 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที มาตรฐานไอเสียอยู่ในระดับยูโร 3
 

กำลังของเครื่องยนต์ตัวนี้ดีครับ เพียงพอต่อการใช้งาน และแทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่างขับไปคนเดียว กับนั่งเต็มรถ 5 คน การเรียกความเร็วทั้งช่วงการออกตัว และความเร็วสูงสุดระดับ 160-170 กม./ชม. ทำได้ไม่ยากเย็นนัก รวมถึงการเร่งแซงด้วยเช่นกัน
 

แต่หากพูดถึงเกียร์ ผมยังรู้สึกว่าหากขับแบบเอามัน เอาแบบอารมณ์สปอร์ต จะขาดๆ ไปสักหน่อยในเรื่องของการลื่นไหลช่วงการเปลี่ยนเกียร์ และการเรียกกำลังที่ดูยังไม่นุ่มนวลเท่าที่ควร แต่ถ้าขับแบบปกติทั่วๆ ไป ข้อตำหนิของผมข้อก็จะลดลงครับ
 

แต่ถ้าพูดกันรวมๆ แล้ว คาลิเบอร์ เกียร์อัตโนมัติ มีข้อดีให้พูดถึงเยอะครับ สิ่งที่เด่นๆ ของมัน ก็คือ  ช่วงล่างที่นิ่ง แม้จะใช้ความเร็วสูง รถไม่มีอาการวอกแวกหรือปลิวลมให้รู้สึก อีกสิ่งหนึ่ง ก็คือ ความเงียบที่ต้องยกให้เป็นจุดเด่นมากๆ แม้จะขับที่ความเร็วสัก 140 มันก็เงียบ เงียบดีกว่ารถเก๋งบางรุ่นด้วยซ้ำไป อันนี้ต้องตบมือดังๆ
 

ย้อนกลับมาที่ช่วงล่างอีกนิด คาลิเบอร์ ไม่ใช่รถที่นุ่มนวล แต่มีความกระด้างให้รู้สึกได้ แต่นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมมันเกาะถนนได้ดี ก็อยู่ที่คนจะเลือกละครับว่าจะเอาอย่างไร แต่ถ้าถามผม ผมมองข้ามมันไปครับ
 

หรือหากขับรถไปเที่ยวกับครอบครัว แบบเต็มคัน มันจะนุ่มลงได้อีก และขากลับหากซื้อของติดไม้ติดมือโยนใส่กระบะท้ายมาอีกหน่อย ทีนี้คนในรถตีตั๋วนอนยาวได้เลยครับ
 

 

 

 

ขอขอบคุณที่มาของแหล่งข่าว

เนื้อหาโดย: 9engineer.com (http://9engineer.com/)