การวัดฮาร์มอนิก Harmonic measurment
โดย : Admin

การวัดฮาร์มอนิก
Harmonic measurment
                                                                                                                                  sakchai@pea.or.th
 

                     ในการวัดค่าระดับฮาร์มอนิก    เพื่อตรวจสอบค่าตามขีดจำกัดของมาตรฐาน  หรือวิเคราะห์ระบบ
             เช่น การออกแบบฟิลเตอร์  สำหรับกำจัดหรือลดฮาร์มอนิก   เพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องต้องมีการพิจารณา
             ถึง เครื่องมือวัด  วิธีการวัด  และจุดตรวจวัดให้เหมาะสม    และสอดคล้องกับระบบ รวมทั้งคุณลักษณะ
             ของฮาร์มอนิกที่ทำการตรวจวัด

              เครื่องมือวัด
                      เครื่องมือวัดฮาร์มอนิกที่ใช้อยู่ในปัจจุบันโดยทั่วไปเป็นลักษณะเครื่องมือวัดแบบ Time- Domain
              คือทำการวัด Sample สัญญาณในช่วงเวลาสั้นๆ     มาวิเคราะห์ตามวิธี DFT (Digital Fourier-Transform
             Technique)   มาตรฐาน IEC 1000-4-7 ได้มีการกำหนดค่า  Sample  ของเครื่องมือวัดฯ ที่ 10 Cycle ของ
             ระบบที่มีความถี่หลักมูล 50 Hz และ12 Cycle ที่ 60Hz คือเครื่องมือวัดฯ จะนำคุณลักษณะของกระแสหรือ
             แรงดันทุกๆ 200 ms มาทำการวิเคราะห์และค่าผิดพลาดในการSampleแต่ละครั้งต้องมีค่าไม่เกิน 0.03%
             ของจำนวน Cycle ที่กำหนดดังข้างต้น   สำหรับเครื่องมือวัดฯที่ใช้ต้องตรวจวัดฮาร์มอนิก        มาตรฐาน
             IEEE 519-1992ได้มีการกำหนดค่าดังกล่าวต้องมีค่ามากกว่าลำดับที่ 50 และค่าSampling rate ที่ใช้สำหรับ
             เครื่องมือวัดฮาร์มอนิกของผลิตภัณฑ์ ต่างๆ จะอยู่ในช่วงระหว่าง 83 - 133 / cycle

              
               จุดตรวจวัด
                    จุดตรวจวัดฮาร์มอนิกจะพิจารณาตามวัตถุประสงค์ของการตรวจวัดว่าต้องการนำค่าที่วัดได้ไปใช้งาน
             ในลักษณะใด เช่นเพื่อการวิเคราะห์ฮาร์มอนิกในระบบ หรือการตรวจสอบค่าขีดจำกัดของมาตรฐาน โดย
              ทั่วไปการวัดฮาร์มอนิกจะมีจุดตรวจวัด ที่สำคัญคือ

              1. จุดต่อร่วม ( PCC ) คือจุดซื้อขายไฟระหว่างการไฟฟ้า กับผู้ใช้ไฟ
                       เป็นจุดสำหรับวัดเพื่อตรวจสอบค่ากระแสและแรงดันฮาร์มอนิกของผู้ใช้ไฟที่อาจไหลเข้าสู่ระบบของ
              การไฟฟ้า โดยทำการเปรียบเทียบกับค่าขีดจำกัดตามมาตรฐานที่กำหนด ในระบบของการไฟฟ้าจะมีจุดต่อ
             ร่วมอยู่ 2 ลักษณะคือ

                       1.1    จุดต่อร่วมที่อยู่ทางด้านหน้าหม้อแปลง   จุดต่อร่วมนี้จะใช้กับผู้ใช้ไฟขนาดแรงดัน 22 ,24, 33
              และ 115 kV ที่มีหม้อแปลง เฉพาะราย และจุดต่อร่วมดังกล่าวนี้ โดยทั่วไปจะอยู่ทางด้านแรงสูง (ดังรูปที่ 1)



รูปที่ 1 จุดต่อร่วมทางด้านแรงสูง

                         ในการวัดค่าฮาร์มอนิกที่จุดต่อร่วมนี้    ต้องทำการวัดผ่านหม้อแปลงแรงดัน   (PT) และหม้อแปลง
             กระแส  (CT)    ซึ่งต้องมีคุณสมบัติการตอบสนองได้อย่างถูกต้องในความถี่ช่วงกว้าง      การวัดแรงดันโดย
             ผ่านหม้อแปลงแรงดันนั้น     ควรมีคุณสมบัติในการตอบสนองความถี่ได้ดีที่ความถี่มากกว่า 3 kHz     และ
             ค่า   accuracy    ควรอยู่ในช่วงไม่เกิน 3%   ที่ความถี่มากกว่า 5 kHz       และข้อแนะนำในการวัดแรงดัน
             ฮาร์มอนิกนั้น ไม่ควรวัดผ่านหม้อแปลงแรงดันแบบคาปาซิเตอร์ (CVT)   เพราะอาจทำให้เกิดการวัดที่ผิด
             พลาดได้ เนื่องจากตัว CVT ไม่สามารถตอบสนองความถี่ได้ดีที่ความถี่สูงๆ และอาจเกิดปัญหาเรโซแนนซ์
             ภายในตัวมันเองได้ในช่วงความถี่ฮาร์มอนิกที่ต้องการตรวจวัด        ส่วนการวัดกระแสต้องทำการวัดผ่าน
             หม้อแปลงกระแส (CT ) นั้นควรมีค่า accuracy อยู่ในช่วงไม่เกิน 3%  ที่ความถี่มากกว่า 10 kHz    และผล
             จากการใช้ หม้อแปลงกระแสช่วยในการวัด ทำให้ค่า มุมของกระแสฮาร์มอนิกที่วัดได้มีค่าคลาดเคลื่อนไป
              จากลักษณะจริง   ซึ่งจะมีผลต่อการนำค่าดังกล่าวไปใช้ในการวิเคราะห์ต่อไป     แต่ในบางครั้งอาจมีความ
              จำเป็นที่ไม่สามารถวัดที่จุดต่อร่วมดังกล่าวได้ โดยต้องไปทำการวัดทางด้านหลังของหม้อแปลง และต้องทำ
              การแปลง ค่าที่วัดได้ไปทางด้านแรงสูง    ซึ่งเป็นจุดตรวจสอบดังกล่าว  โดยการแปลงค่าผ่านอัตราส่วนของ
              หม้อแปลง และยังต้องมีการพิจารณาถึงลักษณะการต่อหม้อแปลงด้วย เพราะจะมีผลต่อค่ากระแสฮาร์มอนิก
              บางลำดับ เช่น หม้อแปลงที่ต่อแบบ เดลต้า-วาย   ฮาร์มอนิกลำดับศูนย์ (Zero Sequence)   ที่มีอยู่ด้านหลัง
              หม้อแปลง ไม่สามารถไหลผ่านขดลวดของหม้อแปลงออกไปที่จุดร่วมดังกล่าวได้ ดังรูปที่ 2.1และ 2.2 แสดง
               ความแตกต่างของกระแสฮาร์มอนิกด้านปฐมภูมิและทุติยภูมิจากผลการต่อหม้อแปลงแบบ เดลต้า-วาย


         รูปที่2.1 กระแสฮาร์มอนิกทางด้านทุติยภูมิต่อแบบวาย               รูปที่2.2 กระแสฮาร์มอนิกทางด้านปฐมภูมิต่อแบบเดลต้า
 

               1.2 จุดต่อร่วมที่อยู่ด้านหลังหม้อแปลง จุดต่อร่วมนี้จะใช้กับผู้ใช้ไฟขนาดแรงดันไม่เกิน 410 V ซึ่งเป็น
                ผู้ไฟขนาดเล็ก ไม่มี หม้อแปลงเฉพาะราย โดยใช้หม้อแปลงในระบบจำหน่ายของการไฟฟ้า ดังรูปที่ 3


รูปที่3 จุดต่อร่วมทางด้านแรงต่ำ

             2. จุดตรวจวัดเพื่อวิเคราะห์ฮาร์มอนิก
                  เป็นจุดวัดเพื่อใช้สำหรับวิเคราะห์ฮาร์มอนิกในระบบอย่างละเอียดสำหรับการศึกษาและการแก้ไข
            ปัญหาฮาร์มอนิกดังเช่น จุดตรวจวัดแหล่งจ่ายฮาร์มอนิก เพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะกระแสฮาร์มอนิกของ
            โหลดที่เป็นแหล่งจ่ายฮาร์มอนิก จุดตรวจวัดอุปกรณ์ในระบบ เพื่อวิเคราะห์ระดับฮาร์มอนิกที่ตัวอุปกรณ์
            ที่อาจได้รับผลกระทบจากฮาร์มอนิก   หรือตรวจสอบระดับฮาร์มอนิกจากการติดตั้งฟิลเตอร์ และจุดตรวจ
            วัดอื่นๆ ในระบบเพื่อประกอบในการวิเคราะห์ฮาร์มอนิก

            ช่วงเวลาการวัด
                       เนื่องจากระบบไฟฟ้าบางแห่งมีการใช้โหลดฮาร์มอนิกแต่ละช่วงเวลาไม่คงที่ ซึ่งในการประเมิน  
            ระดับฮาร์มอนิก  จากการตรวจวัดในช่วงเวลาสั้นๆนั้นข้อมูลที่ได้มาจะไม่ถูกต้องนัก เช่นโหลดฮาร์มอนิก
            ประเภทที่มีคุณลักษณะการทำงานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  เช่น       อุปกรณ์ประเภทเตาหลอมหรืออาร์ค
            จึงต้องมีการกำหนดช่วงเวลาการวัดให้เหมาะสมสำหรับ ช่วงเวลาการทำงานของโหลดฮาร์มอนิกดังกล่าว
            และสำหรับโหลดฮาร์มอนิกที่มีคุณลักษณะการทำงานคงที่ตลอดเวลา  การตรวจวัดอย่างน้อย ต้องให้ครบ
            ช่วงรอบการทำงานของอุปกรณ์และต้องมีการพิจารณาถึงช่วงเวลาการใช้อุปกรณ์ในขณะนั้น ด้วยว่ามีการ
            ใช้งานเต็มพิกัดหรือไม่เพราะจะมีผลต่อขนาดกระแสฮาร์มอนิกที่ไหลเข้าสู่ระบบ

                       สำหรับการตรวจวัดฮาร์มอนิกตามมาตรฐาน  PRC - PQG - 1998   จากข้อกำหนดของการไฟฟ้าฯ
             มีข้อแนะนำการวัดดังตารางที่ 1 ซึ่งในช่วงเวลาของการวัด         จะขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานโหลดของ
             ผู้ใช้ไฟ โดยค่าที่นำมาพิจารณาเพื่อประเมินเทียบกับข้อขีดจำกัดของมาตรฐาน ให้ใช้ค่าความเพี้ยนสูงสุด
             ดังนั้นระบบที่มีการทำงานของโหลดระบบไม่คงที่     ช่วงเวลาการตรวจวัดต้องให้ครบช่วงเวลาการทำงาน
             ของระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 1 สัปดาห์

 

ตารางที่1 เวลาการตรวจวัดฮาร์มอนิกตามมาตรฐาน PRC-PQG-01-1998

การทำงานของโหลดในระบบ
ช่วงเวลาการวัดอย่างน้อย
เวลาในการวัด
เวลาในการวัดซ้ำทุกๆ
ค่อนข้างคงที่ตลอดเวลา
24 ชั่วโมง
10 วินาที
เวลาในการวัดซ้ำทุกๆ
ไม่คงที่
7 วัน
10 วินาที
15 นาที
        
                  สำหรับรายละเอียดเทคนิคการวัดฮาร์มอนิก สามารถศึกษาเพิ่มเติมตามข้อแนะนำตามมาตรฐาน IEC 1000-4-7

เอกสารอ้างอิง
1. PRC-PQG-01-1998 ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ฮาร์มอนิกเกี่ยวกับไฟฟ้าประเภทธุรกิจและอุตสาหกรรม
   "คณะทำงานศึกษา และกำหนดค่าที่เหมาะสมของ Power Quality"
2. IEC 1000-4-7 General guide on harmonic end interharmonics measurement and instrumentation, For power
     supply systems and equipment connected thereto
3. Ronald H. Simpson " Instrumentation , Measurement Techniques , and Analytical Tools in Power Quality
    Studies" IEEE Transactions On Industrial applications, vol.34, No.3 May /June1995
4.Peter E. Sutherland, "Harmonic Measurement in Industrial Power System " IEEE Transactions On Industrial
   applications, vol.31, No.1 , January /February 1995
เนื้อหาโดย: 9engineer.com (http://9engineer.com/)