Operation |
Operand |
คำอธิบาย |
O |
|
จะนำผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ถัดไป มากระทำการ
ปฏิบัติการลอจิก OR กับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ก่อนหน้านั้น |
A( |
|
จะนำผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ภายในวงเล็บ
มากระทำการ
ปฏิบัติการลอจิก AND กับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ก่อนหน้านั้น |
O( |
|
จะนำผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ภายในวงเล็บ
มากระทำการ
ปฏิบัติการลอจิก OR กับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติการลอจิก
( RLO ) ก่อนหน้านั้น |
) |
|
ใช้สำหรับปิดวงเล็บ |
A |
|
|
ลอจิก
AND :
สแกนสถานะโอเปอร์แรนด์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
1
ถ้าโอเปอร์แรนด์มีสถานะเป็น
1 และ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
0 ถ้า โอเปอร์แรนด์
มีสถานะเป็น 0 และ
นำมากระทำการ AND กับ
สถานะของ RLO
ก่อนหน้านั้น
แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปเก็บไว้ที่
RLO |
O |
|
|
ลอจิก
OR :
สแกนสถานะโอเปอร์แรนด์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
1
ถ้าโอเปอร์แรนด์มีสถานะเป็น
1 และ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
0 ถ้า โอเปอร์แรนด์
มีสถานะเป็น 0 และ
นำมากระทำการ OR กับ
สถานะของ RLO
ก่อนหน้านั้น
แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปเก็บไว้ที่
RLO |
AN |
|
|
ลอจิก
AND NOT :
สแกนสถานะโอเปอร์แรนด์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
1 ถ้า
โอเปอร์แรนด์มีสถานะเป็น
1 และ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
0 ถ้า โอเปอร์แรนด์
มีสถานะเป็น 0 และ
นำมากระทำการ NOT
และทำการ AND กับ
สถานะของ RLO
ก่อนหน้านั้น
แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปเก็บไว้ที่
RLO |
ON |
|
|
ลอจิก
OR NOT :
สแกนสถานะโอเปอร์แรนด์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
1 ถ้า
โอเปอร์แรนด์มีสถานะเป็น
1 และ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนจะเป็น
0 ถ้า โอเปอร์แรนด์
มีสถานะเป็น 0 และ
นำมากระทำการ NOT
และทำการ AND กับ
สถานะของ RLO
ก่อนหน้านั้น
แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปเก็บไว้ที่
RLO |
= |
|
|
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการนำสถานะของ
RLO
ไปเป็นสถานะของโอเปอร์แรนด์ที่กำหนด |
ตัวอักษรระบุอุปกรณ์
I
Q
F
T
C |
ตัวเลขระบุตำแหน่ง
0.0
ถึง 33.7
0.0
ถึง 33.7
0.0
ถึง 255.7
0
ถึง 127
0
ถึง 127 |